(Update 20 พ.ค. 51) รายงานภาพข่าว..งานวันวิสาขบูชา ณ วัดท่าซุง 19 พ.ค. 51
webmaster - 12/5/08 at 16:54
พิธีสะเดาะพระเคราะห์เสวยอายุ 108 และ พิธีไหว้ครูใหญ่
นี่คือ..ป้ายภายในศาลา 12 ไร่ ตัวอย่าง "พระเคราะห์เสวยอายุ 108" สำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ แต่ผู้ที่เกิดวันอื่นๆ พระเคราะห์เสวยอายุจะไม่เท่ากัน
ผู้ร่วมพิธีควรจะอ่านป้ายนี้ก่อน เพื่อคำนวณวันเดือนปีเกิด แล้วจะได้จัดเครื่องพิธีให้ถูกต้องตามตำรา ส่วนถาดบูชาครูก็จะมีเตรียมไว้ให้
สำหรับผู้ที่จะไหว้ครูใหญ่ในวันนี้ด้วย
ภายในบริเวณศาลา 12 ไร่ หลวงพ่อเจ้าอาวาสกำลังนั่งรับสังฆทาน โดยมีท่านพุทธบริษัทเดินทางมาร่วมงานกันมากมาย หลังจากพิธีบวงสรวงแล้ว
ได้มีการทำพิธีสะเดาะพระเคราะห์ รอบแรก เวลา 10.00 น. รอบที่ 2 เวลา 14.00 น.
พิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ
ภาพบรรยากาศก่อนเวียนเทียน เวลา 18.30 น. มีการทำพิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ หลวงพ่อเจ้าอาวาสกำลังเดินเข้าไปในพระอุโบสถ
โดยมีผู้รอเวียนเทียนกันมากมาย นอกจากมีบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ยังมีคณะนักเรียนโรงเรียนพระสุธธรมยานเถระ มาร่วมเวียนเทียนด้วยนับร้อยคน.
ภาพชุดนี้เป็นภาพมณฑป "หลวงปู่ปาน" และ "ศาลานวราช" ในขณะที่ถ่ายภาพ มีแสงประหลาดเกิดขึ้น
ภาพก่อนวันงาน
วันที่ 18 พ.ค. 51 ในตอนเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. หลวงพี่ชัยวัฒน์ได้ทำพิธีบวงสรวง ณ วิหารสมเด็จองค์ปฐม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของท่าน
หลังจากเปิดเทปพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ บวงสรวงแล้ว ทุกคนจึงยกพานดอกไม้ขอขมาพระรัตนตรัย และขอขมาบิดามารดาทุกภพทุกชาติ
จากนั้นหลวงพี่ชัยวัฒน์ได้เป็นตัวแทนทุกคน นำพานบายศรีดอกไม้ไปไหว้คุณพ่อของท่าน และนำพานบายศรีไปไหว้คุณแม่ของท่าน (คุณแม่ของท่านเสียชีวิตไปแล้ว
คุณป้าปราโมทย์ ณ ระนอง จึงเป็นผู้รับพานบายศรีแทน)
ต่อจากนั้นผู้ร่วมพิธีทุกคน ต่างก็เข้ามาถวายพานดอกไม้แก่หลวงพี่ แล้วท่านได้มอบของที่ระลึกให้ทุกคน แล้วตัวแทนได้กล่าวคำขอขมาแด่หลวงพี่ และถวาย
"พานกระทงพระเคราะห์" แก่ท่าน จากนั้นหลวงพี่พร้อมคณะ ก็ได้นำกระทงพระเคราะห์ไปลอยในสระน้ำ ด้านหน้าพระวิหารสมเด็จองค์ปฐม พร้อมกับปล่อยปลาด้วย
ท่ามกลางความปลื้มปีติยินดีของทุกคน
ตอนบ่ายวันที่ 19 พ.ค. 51 หลังจากทุกคนทำพิธีสะเดาะพระเคราะห์ และทำพิธีไหว้ครูใหญ่ที่ศาลา 12 ไร่เสร็จแล้ว
จึงได้กลับมาทำเซอร์ไพรซ์ที่วิหารสมเด็จองค์ปฐมอีก คือมีการเปิดเทปเพลง...
"..ปาเจเร..จริยา โหนตุ คุนุตรา นุสา สกา..
เคยพร่ำเคยสอน เมื่อตอนที่ยังโง่เขลา
ได้เรียนรู้ได้ขัดเกลา ชีวิตจึงงอกงดงาม
ใครพร่ำเพียรสอน ให้รู้คิดเขียนตอบถาม
ห่วงใยใส่ใจติดตาม แม้ยามที่เราดื้อดึง
จากกระดานดำ จากถ้อยคำที่พร่ำพูดบ่น
โน้มนำให้คนฝึกตน ส่งคนข้ามฝั่งแสนไกล
ครูยังยืนยงส่งเสริมศิษย์รุ่นต่อไป
คำสอนสั่งยังเตือนใจ นานเท่าไหร่ไม่เคยลืมเลือน (ซ้ำ*)
เป็นยิ่งกว่าแสงตะเกียงส่องทางสดใส
งดงามกว่าแสงใดๆ เปรียบไปยิ่งกว่าแสงเดือน
เปรียบประภาคาร ก็เพียงแค่แสงส่องเตือน
แสงใดจะงามเสมือน แสงปัญญาที่ครูให้เรา
อยากกลับมาหา กลับมาพบครูคนเก่า
พบคนที่เคยสอนเรา พบคนที่เคยเมตตา
ครูยังคอยรอ ให้เรามาพบเยี่ยมหา
ก้มลงกราบครูบูชา ถึงเวลาต้องมาไหว้ครู
ปาเจรา จริยาโหนติ คุนุตรา นุสา สกา.." (4 รอบ)
โดยทุกคนร้องตามกันไป แต่บางคนร้องไม่ออก เพราะน้ำตามันไหลแข่งออกมา ด้วยความตื้นตันใจ แล้วทุกคนก็เข้ามาถวายพวงมาลัยกับหลวงพี่ชัยวัฒน์
หลังจากนั้น หลวงพี่ชัยวัฒน์ได้กล่าวว่า ท่านเพียงแต่เป็นผู้รับเครื่องสักการบูชานี้แทน เพราะครูที่สำคัญคือ "องค์หลวงพ่อ" นั่นเอง
จากนั้นก็ยกพานที่ทุกคนนำพวงมาลัยมาถวายท่านทั้งหมด แล้วกล่าวถวายบูชาครูอีกครั้งหนึ่ง แล้วท่านก็ให้คนนำไปวางไว้ที่โต๊ะหมู่บูขา
"..พระคุณครู ใหญ่ยิ่ง ดุจมิ่งฟ้า
ทั่วสุธา น้อมเชิดชู ครูเหนือเศียร
พระคุณครู ดั่งประกาย คล้ายแสงเทียน
สอนศิษย์เรียน รู้กระจ่าง โลกกว้างไกล
ณ วันนี้ ที่เราจำ คำครูสอน
ประดุจพร เสริมชีวิต จิตผ่องใส
จึงขอเทิด คุณครูยิ่ง มิ่งฤทัย
น้อมมาลัย สักกา บูชาครู.."
คณะทีมงานตามรอยฯ จึงขออนุโมทนาทุกท่าน ที่ได้ช่วยงานตั้งแต่ทำบายศรี จัดอาหาร จัดของชำร่วย จัดสถานที่ และสุดท้ายปิดรายการด้วยเพลง
ปาเจเร...จริยา..โหนตุ พร้อมบทกลอนที่ประทับใจแก่ทุกคน ปีหน้าพบกันใหม่นะ...สวัสดี
"คณะทีมงาน TPB"