กราบสวัสดีทีมงานครับ
กระผมขอวิธีที่เราจะเอาชนะความโกรธหรืออารมณ์ไม่พอใจต่าง ๆ
ขอบพระคุณมากครับ
พรหมวิหาร 4
กสิณสี 4
ไตรลักษณ์ - คิดว่าเราจะไปโกรธเขาทำไมในเมื่อเขาก็แก่ไปทุกวัน มุ่งหน้าไปหาความตายในที่สุด สลายไปจากโลกในที่สุด
เราควรทำอารมณ์ใจของเราให้เป็นกุศลเพราะเวลาที่เราตายจะได้มีที่ไปที่ดี
ขออนุโมทนาค่ะ
Motana sadhu krub
Quote: |
ขอบพระคุณครับ
คนเดียวกันครับกราบขอบพระคุณมาก ๆ ครับ
ผมขออนุญาติยกข้อความคำสอนของหลวงพ่อ มาจากหนังสือพ่อรักลูก ๒ หน้าที่ ๙๔ มาช่วยเสริมอีกแรงครับ
"จำไว้นะบรรดาลูกหลานที่รัก อย่างไรๆ ยื้มมันตลอดวัน หลับยิ้มเสียได้ก็ยิ่งดี ฝึกยิ้มมันเรื่อยๆ ไป ถ้าปากเรายิ้ม ไม่ช้าใจเราก็ยิ้มตาม
ไอ้โมโหโทโสมันก็ค่อยๆ หายไป นี่คือวิธีดับโมโห"
— เพื่อมหาชน
กำลังโมโหแมวอยู่พอดีเลย มันชอบเคลียเท้าแล้วกัดบ้างข่วนบ้างแต่ไม่แรงเท่าไหร่ เจ็บนิดๆ แต่เวลาทำงานมันชอบเป็นอย่างเนี้ย บางทีก็โมโหและหงุดหงิด (เพราะเป็นแมวที่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็ซื้ออาหารให้มันกินนะ) แต่พอโมโหอะไรอยู่ใกล้มือ ก็ปาใส่ไม่ยั้ง ถ้าจับได้ก็จะจับคอมันกดกับพื้นแล้วจับเหวี่ยงออกนอกบ้าน โมโหก็คลายลง ก็รู้ตัวนะว่าไม่ดี อยากเลิกโมโห ใครมีคำสอนดี ช่วยบอกหน่อยนะ ก่อนเขียนเนี้ยะก็ปากกาพังไปแล้ว เพราะปาแมว เฮ่อใครก็ได้ช่วยที
เอาชนะความโกรธด้วยการไม่โกรธ
ชนะได้เราก็ไม่โกรธ
แพ้เราก็ยังเป็นผู้โกรธอยู่
สั้นๆแต่ทำยาก
ถ้าตั้งใจจริงหวังผลได้แน่ครับ หลวงพ่อให้บอกตัวเองว่า "เราจะไม่โกรธ เราจะไปนิพพาน"ให้คิดว่าสิ่งที่ทำให้เราโกรธมันดึงเราไว้ไม่ให้ไปนิพพานครับ อย่าให้มันดึงเราได้
ตัดตาย.....มันไม่ใช่เรา เราไม่ใช่มัน มันไม่มีในเรา เราไม่มีในมัน
หลวงพ่อสอนลูกหลานเสมอ ว่าความโกรธ คือ พยาบาท เป็นนิวรณตัวหนึ่ง ที่จะทำปัญญาให้ถอยหลัง
หลวงพ่อบอกว่าการระงับความโกรธ ให้ใช้พรหมวิหาร ๔ เข้าควบคุม ผมคิดว่าเท่านี้ก็คงพอแล้วนะ เพียงแต่ต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อน แล้วใช้ปัญญาพิจารณาต่อ
ซึ่งผมคิดว่าการควบคุมตัวนี่แหละที่ยากหน่อย แต่ก็ยากในตอนต้นเท่านั้น ถ้ารู้จักใช้ความพยายามและความอดทนเข้าควบคุมไว้ก่อน อะไร ๆ ก็ง่ายขึ้น
อีกวิธีหนึ่งที่หลวงพ่อบอก คือ วรรณกสิณ ๔ ซึ่งตามความเข้าใจของผม ก่อนจะเริ่มกสิณต้องจับอานาปานุสสติก่อน พร้อมเพ่งกสิณไปด้วย
อานาปานุสสติน่าจะช่วยผ่อนคลายจิตใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว
— เพื่อมหาชน