นมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ หนูสงสัยเรื่องธรรมนิมิต และหากว่าเกิดขึ้นกับตัวเราแล้วเราต้องทำอย่างไรเจ้าคะ
กราบนมัสการค่ะ
เรื่องธรรมนิมิต หมายถึง "นิมิต" ที่เกิดจากการปฏิบัติธรรม แยกเป็น 3 ประเด็น คือ
1. ในขณะที่คุณภาวนาอยู่ หรือพิจารณาในกรรมฐานทั่วไป หากเกิดนิมิต ที่เป็นแสงสี หรือภาพที่ลอยมา ท่านไม่ให้สนใจ
2. แต่ถ้าภาวนาหรือจับภาพกสิณ จะเป็นกสิณสีต่างๆ หรือจับภาพพระพุทธรูป หากมีภาพอื่นที่เป็นนิมิต ที่เราไม่ต้องการ ท่านก็ไม่ให้สนใจอีกเช่นกัน
คงสนใจเฉพาะภาพที่เราจับไว้กับใจเท่านั้น
3. แต่ถ้า "นิมิต" เกิดจากการฝึกมโนมยิทธิ ถ้าสงสัยว่ามีความหมายอย่างไร
ท่านให้ทูลถามพระพุทธเจ้า หรือครูบาอาจารย์โดยตรง
ยกตัวอย่าง สมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ถ้าวันไหนท่านเห็นนิมิตเป็นสีแดง นั่นหมายความว่าท่านจะป่วยหนัก นี่เป็นกรณีแต่ละบุคคล
นิมิตที่เกิดขึ้นจึงไม่เหมือนกันทุกคน จะให้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ นิมิตจึงมีทั้งดีและไม่ดี หากเกิดขึ้นกับตัวเรา ทางที่ดีไม่สนใจจะดีกว่า
เพราะบางครั้งนิมิตมีทั้งจริงและไม่จริง เรื่องนี้เราต้องจำสถิติที่ผ่านมาไว้ เพราะบางคนก็เกิดนิมิตบอกล่วงหน้าได้ตรงจริงๆ แต่บางคนเคยได้ยินเล่าว่า
ตัวเองหลุดลอยออกไปบ้าง บางคนฝันเห็นก่อน แล้วก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง เรื่องแบบนี้จึงมีหลายกรณี
ขอเจริญพร
พระอาจารย์ชัยวัฒน์ อชิโต
21-03-54
นมัสการเจ้าค่ะ พระอาจารย์ชัยวัฒน์ กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ หนูกำลังฝึกมโนอยู่เจ้าค่ะ ก่อนนอนนั้นหนูได้บริกรรมไปด้วย แล้วอาจจะตัดหลับไปหรือเปล่าหนูไม่แน่ใจ
แล้วก็เกิดเห็นตัวเองกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธอยู่ล่ะเจ้าค่ะ แล้วหนูก็รู้สึกตัวแต่ว่าตอนที่รู้สึกตัวนั้น ตัวเองยังอยู่ในสมาธิ มิได้ลืมตาขึ้นมาแต่ประการใด
ได้แต่นอนพิจารณาว่าเหตุใดจึงเห็นตัวเองอยู่ในอารมณ์โกรธได้ขนาดนั้น
และเป็นแบบนี้หลายคืนมาก แบบนี้หนูต้องฝึก หรือต้องทำอย่างไรเจ้าค่ะ
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะพระอาจารย์
ทีหลังก่อนนอน หลังจากไหว้พระสวดมนต์แล้ว ก่อนที่จะบริกรรมภาวนา น่าจะตั้งจิตแผ่เมตตาก่อน ลองดูก็แล้วกันนะ เพราะถ้าหลับไปหลังจากบริกรรมภาวนาไปแล้ว
จิตควรจะสงบไปกับสมาธิอย่างแท้จริง
อ.ชัยวัฒน์
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ พระอาจารย์ชัยวัฒน์
ขอกราบเรียนถามท่านพระอาจารย์ชัยวัฒน์ อชิโต
เรื่องการสร้างนิมิต เราสามารถที่จะสร้างนิมิตจากจินตนาการ โดยนิมิตนั้น
ไม่ได้มีอยู่จริง แล้วจับภาพนั้นเป็นกสิณ ได้หรือไม่ครับ
กราบนมัสการครับ