ภาพข่าว..งานทำบุญวันวิสาขบูชา, พิธีไหว้ครู, และ ทำพิธีสะเดาะเคราะห์
webmaster - 3/5/09 at 14:12

ภาพข่าว..งานพิธีไหว้ครู และ พิธีสะเดาะเคราะห์


รอบแรกเวลา 10.00 น. รอบ 2 เวลา 14.00 น.


งานทำบุญวันวิสาขบูชาในตอนเช้าวันที่ 8 พ.ค. 52 บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทที่เดินทางมาถึงวัดแล้ว ต่างก็เข้ามาทำบุญตักบาตรภายในศาลา 12 ไร่ บางคนก็ช่วยกันจัดอาหารคาวหวานมาวางเรียงไว้บนอาสนสงฆ์ เพื่อเตรียมไว้ถวายแด่คณะสงฆ์วัดท่าซุง ที่จะขึ้นมาบนอาสนสงฆ์เวลาประมาณ 08.00 น.


ส่วนภายในศาลา 12 ไร่ ตรงด้านประตูทางเข้า จะมีกระดานเขียนอธิบายไว้ สำหรับผู้ที่จะเตรียมเครื่องบูชาพระเคราะห์ตามวันเกิดทั้ง 7 วันของแต่ละคน ภาพที่เห็นเป็นกระทงบูชาพระเคราะห์ทั้ง 108


หมายถึงผู้ที่ร่วมพิธีสามารถบูชาพระเคราะห์รวม 108 โดยทางเจ้าหน้าที่ของวัดได้จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว ทั้งถาดธูป เทียน ธงสี กระทงดอกไม้ อย่างครบถ้วน


หลังจากพระสงฆ์ขึ้นบนอาสนะแล้ว ทายกนำกราบพระและรับศีลอุโบสถ พร้อมทั้งกล่าวคำถวายภัตตาหารแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เปิดวิดิทัศน์พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ แสดงพระธรรมเทศนา "วันวิสาขบูชา"

เมื่อถึงเวลา ๐๙.๕๐ น. พระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาส และ พระครูสังฆรักษ์สุรจิต รองเจ้าอาวาส จึงได้เริ่มทำพิธีบวงสรวง เนื่องในพิธีไหว้ครู และ พิธีสะเดาะเคราะห์ ท่ามกลางผู้ร่วมพิธีเต็มแน่นขนัดภายในศาลา 12 ไร่


เจ้าหน้าที่คอยบริการถาดเครื่องบูชาตลอดเวลา ส่วนโต๊ะหมู่พระประธานได้จัดตบแต่งดอกไม้บูชาอย่างสวยงาม


ครั้งถึงเวลา 10.00 น. ตัวแทนเจ้าภาพได้จุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชา และจุดเทียนที่อ่างน้ำมนต์ด้านหน้าโต๊ะหมู่บูชานั้น


ต่อจากนั้นพระสงฆ์ผู้ทำพิธีกรรมก็ได้เริ่มเจริญพระพุทธมนต์ หลังจากเสร็จพิธีสะเดาะเคราะห์รอบแรกแล้ว ญาติโยมทั้งหลายต่างก็เข้าไปถวายสังฆาทานกับหลวงพ่อเจ้าอาวาส


วันนี้ถึงแม้อากาศจะร้อนอบอ้าว แต่ผู้ร่วมพิธีทุกคนต่างก็ไม่ย่อท้อ เข้ามาเข้าแถวร่วมทำบุญกันมากมายไม่ขาดสาย


จนกระทั่งถึงเวลา 11.00 น. พระสงฆ์จึงได้เข้ามาฉันภัตตาหารเพลภายในศาลา 12 ไร่ ส่วนญาติโยมพุทธบริษัทที่เข้าพิธีแล้ว ต่างก็ทยอยกันเดินทางกลับ จนขบวนรถติดตั้งแต่ปราสาททองคำ อาคาร 25 ไร่ จนถึงวิหารสมเด็จองค์ปฐมตลอดไปจนถึงทางออกด้านหน้าวิหาร 100 เมตร

ส่วนผู้ที่เดินทางมาไม่ทันรอบแรก ต้องรอบเข้าพิธีรอบ 2 เวลา 14.00 น. กันต่อไป แต่ในระหว่างที่รอเข้าพิธีนี้ ต่างก็ไปกราบนมัสการสถานที่สำคัญภายในวัดท่าซุง เช่น วิหาร 100 เมตร เป็นต้น บางคนก็ไปที่พระยืน 30 ศอก หรือ "หลวงพ่อไหลมาเทมา" ปีนี้ให้ลาภแก่ผู้กราบไหว้บูชามาก เพราะมีผึ้งมาทำรัง 2 รัง เกาะอยู่ที่แขนทั้งสองข้างขององค์พระ

และในปีนี้เป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะที่ "วิหารสมเด็จองค์ปฐม" มีญาติโยมเข้ามานมัสการและถวายเครื่องบูชากันแน่นขนัด จนอากาศภายในร้อนอบอ้าว สำหรับ "วันวิสาขบูชา" ปีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดทำ "พานลูกแก้วมณีรัตนะ" เตรียมไว้ให้ญาติโยมได้ถวายสมเด็จองค์ปฐม รวมทั้งหมดประมาณ 7 พาน โดยจัดพานลูกแก้วครบถ้วนทั้ง 7 สี มณี 7 แสง นับว่ามีอานิสงส์สูงสุดของการถวายเครื่องบูชา

















พิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เวลา 18.30 น.



ในตอนเย็นวันนี้ ถึงแม้จะมีคนเดินทางกลับไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนรอเวียนเทียนกันอีกมาก เพราะวันต่อมาเป็นวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนวันจันทร์ก็ตรงกับวันพืชมงคล บางคนทำงานราชการก็ได้หยุดหลายวัน ก่อนเวลาเวียนเทียน คณะนักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถรวิทยาก็มานั่งรออยู่ที่ด้านหน้าพระอุโบสถ ครั้นถึงเวลาประมาณ 18.00 น. หลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์ก็เดินทางมาถึง ท่ามกลางญาติโยมพุทธบริษัทที่มานั่งรอกันอยู่มากมายเช่นกัน


เวลานี้ถึงแม้จะเป็นเวลาเย็นแล้วก็ตาม แต่พื้นปูนซีเมนต์ที่ถูกแดดแผดเผาตลอดทั้งวันก็ยังร้อนระอุอยู่ ดังนั้นคนที่นั่งอยู่บนพื้นปูนก็ต้องนั่งทนอยู่นั่นแหละ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะปูเสื่อไว้รองนั่งไว้แล้วก็ตาม


ภายในพระอุโบสถ พระสงฆ์ต่างก็ทยอยเข้ามาภายใน โดยมีหลวงพ่อเจ้าอากาศนั่งเล่าประวัติความเป็นมาของ "วันวิสาขบูชา" จนกระทั่งถึงเวลา 18.30 น. พระสงฆ์จึงได้นำนมัสการพระรัตนตรัย ขอขมาโทษ และสวดสรภัญญะ "องค์ใดพระสัมพุทธ.." พร้อมกับญาติโยมที่อยู่ด้านนอก


จากนั้นพระสงฆ์ก็ออกมาจุดธูปเทียนนำญาติโยมเดินทำปทักษิณาวัตรรอบพระอุโบสถ ขบวนแถวยาวเหยียดจนกระทั่งหัวแถวจรดสุดท้ายแถว


เสียงการสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ ดังก้องรอบบริเวณนั้น แต่ก็ยังมีเสียงนกร้องอยู่ตามพุ่มไม้รอบโบสถ์ เสียงดังลั่นแข่งกับเสียงสวดมนต์พอสมควร





เมื่อเดินเวียนเทียนครบ 3 รอบแล้ว พระสงฆ์ก็นำธูปเทียนดอกไม้ไปวางไว้หน้าโบสถ์ แล้วเดินเข้ามารอพักร้อนอยู่ภายใน ท่ามกลางอากาศเย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศ ที่ทางคณะสงฆ์เพิ่งเปลี่ยนใหม่ 2 ตัว โดยมีหลวงพี่ชัยวัฒน์ อชิโต และพระบางรูปในวัดท่าซุงร่วมกันบริจาค

(ภาพองค์พระประธานในพระอุโบสถ ที่ประดับด้วยแสงไฟในยามค่ำคืน และภาพพระสงฆ์ภายในพระอุโบสถ หลังจากพิธีเวียนเทียนแล้วนี้ เป็นการได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อเจ้าอาวาส เพื่อให้ช่างภาพ "ทีมงานเว็บวัดท่าซุง" เข้าไปบันทึกภาพ เพื่อนำมาเผยแพร่กันเป็นครั้งแรก ที่ผู้เยี่ยมชมทั้งหลายได้มีโอกาสเห็นภาพเหล่านี้ เพราะบางคนที่มาร่วมพิธีที่อยู่ด้านนอก อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นภาพเหตุการณ์ครั้งนี้)


หลังจากนั้น หลวงพี่ชัยวัฒน์เป็นผู้นำอุทิศส่วนกุศล เป็นอันเสร็จพิธี มีคณะพุทธบริษัทบางท่านก็เดินทางกลับในคืนนั้นกันเลย ส่วนที่เหลือก็กลับไปพักผ่อน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน


หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้เดินนำออกมาก่อน แล้วมีพระสงฆ์เดินตามเป็นแถว โดยมีญาติโยมศรัทธารอทำบุญใส่ย่ามกันตลอดแถว ทำบุญอย่างไม่อิ่มไม่เบื่อ หลวงพ่อพระครูพูดในโบสถ์ว่า ด้วยความศรัทธาในพระศาสนา จึงทำให้พวกเราสามารถอดทนกับความร้อนของพื้นและอากาศที่อบอ้าวกันได้


เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในจิตใจ หวังจะบำเพ็ญกุศลให้ครบถ้วนในวันสำคัญนี้ นั่นก็คือ วันประสูติ วันตรัสรู้ และ วันปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ในขณะนี้ก็เป็นอันว่าได้ทำบุญกันครบถ้วนทุกพิธีกรรมแล้ว ทุกท่านกลับไปก็คงไม่ลืมถึงวันที่เราได้มาร่วมกันทำพิธีไหว้ครูใหญ่ นั่นก็คือได้ไหว้นับตั้งแต่คุณขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า

ตราบจนกระทั่งถึงคุณครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่ท่านได้สั่งสอนให้ความรู้แก่พวกเรา ถึงแม้จะเป็นความรู้ตั้งแต่ทางโลก จนกระทั่งถึงทางธรรม พวกเราทั้งหลายก็ไม่ลืมพระมหากรุณาธิคุณของท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายเหล่านี้ ความดีที่พวกเราได้กระทำในครั้งนี้ คงจะได้ส่งผลให้ได้เข้าถึงมรรค ผล และนิพพาน สมความปรารถนาในชาตินี้กันทุกท่านทุกคนเทอญ ฯ




webmaster - 5/5/09 at 16:30



กำหนดการ


งานทำบุญวันวิสาขบูชา, พิธีไหว้ครู, และ ทำพิธีสะเดาะเคราะห์

วันศุกร์ที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒


วันศุกร์ที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ( ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ )

เวลา ๐๖.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหาร "กองทุน" ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ ณ สวนไผ่

(ถ้าหากญาติโยมท่านใด มีความประสงค์จะร่วมทำบุญเลี้ยงพระในตอนนี้
ก็ขอให้นำปัจจัยไปร่วมทำบุญกับคณะกองทุนได้)

เวลา ๐๗.๐๐ น. พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ พร้อมด้วยพระสงฆ์ ๓ รูป ลงรับสังฆทาน

ที่ศาลา ๑๒ ไร่ (ส่วนที่วิหาร ๑๐๐ เมตร เริ่มเวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น.)

เวลา ๐๘.๑๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ ขณะที่พระสงฆ์ฉันภัตตาหาร เปิด วี.ดี.โอ. เทป
พระธรรมเทศนา โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

เวลา ๐๙.๕๐ น. พระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาส ทำพิธีบวงสรวง เนื่องในพิธีไหว้ครู
และพิธีสะเดาะเคราะห์ที่ ศาลา ๑๒ ไร่

เวลา ๑๐.๐๐ น. ทำพิธีไหว้ครู และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ รอบที่ ๑ ณ ศาลา ๑๒ ไร่

เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตหารเพลแด่ พระสงฆ์ ที่ใต้อาคาร ๑๒ ไร่

เวลา ๑๔.๐๐ น. ทำพิธีไหว้ครู และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ รอบที่ ๒

เวลา ๑๘.๓๐ น. พระครูปลัดอนันต์ พร้อมด้วยพระสงฆ์และญาติโยมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ

วันเสาร์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ( ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ )

เวลา ๐๖.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหาร "กองทุน" ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ที่สวนไผ่

เวลา ๑๑.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหาร "กองทุน" ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ที่หอฉัน

หมายเหตุ พิธีสะเดาะเคราะห์ในวันที่ ๘ พฤษภาคม จัดเป็นแบบพิธีรับพระเสวยอายุ

(ใช้เครื่องบูชา มีธงสี, ข้าตอก, ดอกไม้ และ ธูปเทียน)

(ในวันที่ ๘ พฤษภาคม งดทำวัตรเช้า - เย็น และงดกรรมฐานที่วิหาร ๑๐๐ เมตร)


ท่านที่จะเดินทางไปร่วมพิธีที่วัดท่าซุง ต้องการข้อมูลนี้จะ Print นำติดตัวไปก็ได้นะครับ


webmaster - 9/5/09 at 05:56



พิธีรับพระเสวยอายุ (พิธีสะเดาะเคราะห์)


การสะเดาะเคราะห์ก็ดี การรับพระเสวยอายุก็ดี ทั้ง ๒ ประการนี้ถือว่าเป็นอันเดียวกัน แต่ว่าจะมีผลดีเป็นประการใดนั้นก็ไม่ขอยืนยัน ถ้าหากจะถามว่า ถ้าไม่ยืนยันแล้วเอามาทำกันทำไม เรื่องนี้ขอให้ฟังกันตอนหลังก็แล้วกัน ตอนต้นนี้ทราบแต่เพียงว่า ต้องการให้ทุกคนมีความสบายใจไว้ก่อน เรื่องความละเอียดที่มีเหตุมีผลเป็นประการใดฟังกันตอนหลัง

ตอนนี้ก็ขอบอกกันในตอนต้นว่า ทุกคนที่จะมารับพระเสวยอายุก็ดี จะมาส่งพระเสวยอายุก็ดี รับหรือส่งน่ะ พระเสวยอายุเองก็ดี พระแทรกก็ดี ทุกคนไม่ต้องเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน ไม่ต้องเตรียมเครื่องสักการะมา

ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าการทำขึ้นก็เพื่อหวังจะให้ลูกให้หลานทุกคนไม่ต้องจ่ายสตางค์มาก เพราะว่าการไปกรุงเทพฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๒๘ มีลูกสาวคนหนึ่งมาบอกว่า “ ให้หมอเขาดูบอกว่ามีเคราะห์ร้าย จะให้ไปสะเดาะเคราะห์แต่เขาจะเอา ๘,๐๐๐ บาท ”

ไอ้อย่างนี้ไม่ใช่สะเดาะเคราะห์คนที่มีเคราะห์ เป็นการสะเดาะเคราะห์คนที่ทำพิธี มันเกินพอดีไป จึงได้มาตัดสินใจว่า เมื่อลูกหลานยังคิดว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ยังมีความสำคัญ ก็จะทำให้ และไม่ต้องเสียสตางค์มาก ทำเต็มตามกำลังพิธีที่ครูบาอาจารย์แนะนำมา แต่ทำครั้งที่แล้ว ครั้งที่ ๑ ก็ดี ครั้งที่ ๒ ก็ดี พอครั้งที่ ๓ เท่านั้นแหละ

ปรากฏว่าเครื่องอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นราคากันลิ่ว อย่างโฟมนี่แผ่นละ ๑๐ บาท แผ่นนิดเดียว ธูปเพื่อนขายเสียดอกละ ๑ บาท ความจริงก็ตั้งใจจะสะเดาะเคราะห์คนขายพวกนี้ให้ได้สตางค์บ้าง เมื่อโลภอย่างนี้ก็จงอย่าเอาเลย มันเป็นความเลวเกินไปสำหรับคนผู้ขาย ต้องถือว่าเลวมาก

ฉะนั้น เครื่องบูชาต่างๆ ทางวัดจะจัดไว้ทั้งหมด พิธีสะเดาะเคราะห์ทุกคนไม่ต้องเอาเครื่องสักการะมาเลย วัดจัดแทนทุกอย่าง แล้วก็จะทำเต็มพิธีตามที่ครูใหญ่ท่านสอนไว้

ทำครั้งแรก ทำครั้งที่ ๒ พอทำครั้งที่ ๓ ท่านก็มาแนะนำบอกว่า ต่อไปต้องมีพระสวด ๒๑ องค์ นอกนั้นมีกำลังน้อยกว่าก็สวมรอยไปเลย ๒๑ และก็ทรงแนะนำให้ใช้ บทสวด ๕ บท บทสุดท้ายให้เจ้าพิธี คือคนทำพิธี ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เมื่อตอนต้น ถ้าชุมนุมเทวดาแล้ว ให้ถามท้าวมหาราชว่า คนไหนที่มีเคราะห์อะไรที่มีความสำคัญ จะต้องแก้ไขเป็นพิเศษบ้าง เมื่อมี ท่านจะแนะนำในการแก้ไข พระท่านบอกว่า

แล้วอย่างนี้เคราะห์ร้ายจะลดตัวลงจาก ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เหลือ ๑๐ เปอร์เซ็นต์บ้าง ต่ำกว่า ๑๐ เปอร์เซ็นต์บ้าง สูงกว่า ๑๐ เปอร์เซ็นต์เล็กน้อยบ้าง แต่คงเหลือไม่ถึง ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ยังเหลือบ้าง

แต่ถ้าถามว่า ถ้าบางคนเขาปฏิบัติธรรมดี จิตทรงฌาน หรือว่าเป็นพระอริยเจ้า จำเป็นจะต้องทำไหม.. ก็ต้องบอกว่า สุดแล้วแต่กำลังใจ ถ้าใจดีแล้วไม่ต้องทำ เชื่อมั่นในความดีที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไม่ต้องทำ ถ้าทำแล้วจะมีผลไหม ก็ต้องตอบว่ามีผล เพราะเคยประสบมาแล้ว ..

.. นี่ว่ากันเรื่องพระๆ กันซะก่อนให้หมดเรื่อง นี่เงยหน้าได้แล้วซิตอนนี้ ตอนก่อนมันเงยหน้าไม่ได้ ไม่ใช่เคร่งครัดมัธยัสถ์อะไรหรอก ก็มันปาเข้าไปก็เรียกว่าต้องอ่านตำรากันนี่ ตอนนี้ก็มาว่ากันถึงเรื่องตำรา ถ้าจะถามว่า เชื่อไหมพระเสวยอายุ ต้องตอบว่า เชื่อ เพราะชนมาแล้ว พูดเรื่องพิธีกรรม กันซะก่อน สำหรับพระเสวยอายุต่างๆ นี่นะที่ทำพิธีรับ