แจ้งผลการจัดซื้อที่ดิน
kittinaja - 31/1/09 at 20:27
ขอแจ้งข่าวให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ได้มีการติดต่อซื้อที่ดินแปลงแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 2 ไร่ครึ่ง จากที่ดินทั้งหมด 11 ไร่ ราคา
1,800,000 บาท ในนาม "มูลนิธิหลวงพ่อปาน - พระมหาวีระ ถาวโร"
จึงขออนุโมทนาผู้ร่วมบุกเบิกทุกท่าน ที่ได้ทำบุญแบบกระทันหัน ทั้งที่โอนบัญชีและทำบุญด้วยเงินสด รวมทั้งสิ้น 1,056,961 บาท
ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งใจจะทำบุญครบทั้ง 5 โครงการ แต่ขออนุญาตนำทุนนี้ทั้งหมดไปซื้อที่ดินก่อน
ฉะนั้น เพื่อความสะดวกในการติดต่อแปลงต่อไป จำเป็นต้องให้มีการประสานงานเงียบๆ ไปกว่านี้ หากว่าซื้อที่ดินได้ไม่ครบถ้วน โครงการต่างๆ
ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องจากมีการนำเรื่องนี้ออกไปโพสต์ในเว็บอื่น โดยมิได้รับอนุญาตเสียก่อน เกรงว่าจะเป็นที่เสื่อมเสีย
กระทู้ของโครงการนี้จึงของดชั่วคราวไว้ก่อน ความคืบหน้าในการเจรจา ยังไม่สามารถซื้อที่ดินแปลงต่อไปได้ เนื่องจากเจ้าของที่ดินขึ้นราคาแพงกว่าเดิม
แต่ท่านยังสามารถทำบุญผ่านบัญชีของวัด หรือท่านที่อยู่กรุงเทพฯ สามารถทำบุญโดยตรงกับ หลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์ ได้ที่บ้านสายลมครับ.
ธนาคารกรุงไทย สาขาอุทัยธานี
ชื่อบัญชี...โครงการซื้อที่ดินสร้างพระใหญ่ วัดท่าซุง
เลขที่ 619 - 0 - 242 - 812
Swift code, KRTHTHBK
Bank code, 007895
Name, Address.
Krung Thai Bank Public Company Limited
Uthai Thani Branch
498 500 sriuthai road
T.uthaimai A.muang
Uthai Thani 61000
บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาอุทัยธานี
อาคารสาขาอุทัยธานี
498 - 500 ถ.ศรีอุทัย
ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี 61000
Tel 0-5651-1027 , 0-5651-1330
FAX 0-5651-2400
รายละเอียดเรื่องการจัดซื้อที่ดิน
ขอแจ้งให้ท่านที่ทำบุญทุกท่านทราบว่า ที่ดินข้างสวนไผ่แปลงนี้ สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่
เจ้าของที่ดินจะขายราคาเป็นล้าน ต่อมา ปี 2549 เจ้าของเดิมได้ตายไป ที่ดินจึงถูกแบ่งออกเป็นหลายเจ้าของ มีเจ้าของแปลงหนึ่งต้องการขายที่ดินจำนวน 2 ไร่ 2
งาน (ที่ดินแปลงนี้ มี 6 ไร่ 2 งาน แบ่งออกเป็น 6 เจ้าของ, และอีกแปลงหนึ่ง มี 4 ไร่เศษ แบ่งเป็น 2 เจ้าของ แปลงนี้ยากยิ่งกว่าแปลงแรก
จึงยังไม่ได้เจรจา)
แต่ก็ดำเนินการเป็นที่ลำบากมาก เพราะต้องซื้อในนามคณะศิษย์ฯ และต้องปิดข่าวเป็นความลับ เพื่อการต่อรองซื้อขายจะได้ไม่แพงเกินไป
จนกระทั่งสามารถซื้อที่ดินแปลงแรกเป็นผลสำเร็จ แต่ส่วนที่เหลือแปลงอื่นๆ เจ้าของเริ่มไหวตัว จากกระแสข่าวที่เริ่มจะปิดไว้ไม่อยู่
บางรายกลับลำขึ้นราคาแพงไปกว่าเดิม จึงจำเป็นที่จะต้องหยุดเจรจาซื้อขายไปก่อน
สำหรับผู้ที่ทำบุญตามรายชื่อดังกล่าวนี้ จะขอนำเงินไปเป็นค่าที่ดินก่อน จำนวน 1,820,153 บาท (รวมค่าโอนด้วย) ส่วนโครงการสร้างพระใหญ่ยังไม่แน่นอน
คงจะต้องรอไปก่อน จนกว่าจะซื้อที่ดินทั้ง 11 ไร่ได้ครบถ้วน ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ส่วนผู้ที่ประสงค์จะทำบุญ ยังคงทำบุญได้แบบเดิม
เพราะเงินที่ทำบุญยังได้ไม่ครบถ้วน
กรณีมีผู้เยี่ยมชมบางท่านได้เข้ามาเห็นกระทู้นี้แล้ววิตกวิจารณ์กันไป แต่ความเป็นจริงแล้ว มีความจำเป็นต้องทำในนามคณะศิษย์ฯ
เนื่องจากต้องติดต่อซื้อขายที่ดินเป็นความลับ แม้กระทั่งพระหรือคนในวัดยังไม่ทราบเรื่องเลย เรื่องนี้คงจะเห็นใจคนที่ดำเนินการ
เพราะว่าจะต้องถูกกดดันทุกด้าน ไหนจะต้องเจรจาเป็นความลับ ไหนจะบอกบุญเป็นสาธารณะไม่ได้
ส่วนสาเหตุที่ต้องนำเรื่องนี้มาบอกบุญกันในเว็บไซด์ เป็นเพราะเหตุว่าคนที่อยู่เมืองนอกต้องการทราบข้อมูล ต่อมากระทู้นี้มีผู้เข้ามาโพสต์ถาม
กระทู้จึงเด้งออกมาหน้าโฮมเพจ อนึ่ง เดิมทำสัญญาจะต้องจ่ายเงินภายใน 1 เดือน แต่ภายหลังต้องเลื่อนชำระเร็วขึ้น จึงจำเป็นจะต้องรีบระดมเงินทุนเกือบ 2
ล้านบาทมาชำระ จึงหวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจดีนะครับ
การดำริที่จะซื้อที่ดินข้างสวนไผ่ มีเรื่องเล่าว่ามาจากแรงบันดาลใจในระหว่างจัดปริวาส คือ หลวงพี่จำเนียรได้บอกเรื่องนี้แก่หลวงพี่ชัยวัฒน์ และ
ท่านอาจารย์หนุน วัดพุทธโมกข์ จ.สกลนคร รับที่จะประสานงานในการสร้างพระพุทธรูป จากนั้นได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือกับหลวงพ่อเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.
52 ที่วิหารร้อยเมตร เวลา 09.30 น.
หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านบอกว่า สมัยก่อนที่หลวงพ่อไม่ซื้อเพราะแพงเกินไป แต่ถ้าพวกเราจะไปบอกบุญคณะศิษย์ที่มีฐานะแล้วถวายวัด ท่านก็ยินดีรับไว้
แต่ตัวท่านเองยังล้าๆ อยู่กับการก่อสร้าง หลวงพี่จึงขออนุญาตบอกบุญในนามคณะศิษย์ก่อน และขอเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย โดยมีหลวงพ่อเจ้าอาวาสและหลวงพี่ชัยวัฒน์
เป็นผู้เปิดบัญชี แต่ถ้าจะบอกบุญซื้อที่ดินอย่างเดียว คนทำบุญอาจจะไม่ศรัทธาเท่าที่ควร จึงได้กราบเรียนขอสร้างพระพุทธรูปด้วย
จะช่วยให้คนมีความเลื่อมใสยิ่งขึ้น แล้วจึงได้มีการทำพิธีบวงสรวงที่หน้าวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552
ทั้งนี้ เพื่อขอให้ทุกท่านช่วย เพราะการซื้อที่ดินเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าการสร้างพระ การสร้างพระพุทธรูปเป็นเพียงโครงการที่วางไว้
เพื่อจะได้น้อมนำอานิสงส์มาช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคได้โดยง่าย อีกประการหนึ่ง ต่อไปก็จะมีการขยายถนนหน้าวัด จะทำให้ติดต่อซื้อที่ดินแพงยิ่งขึ้น
เวลานี้รถบัสใหญ่ๆ ก็ไม่มีที่จอด แม่ค้าหน้าวัดก็จะต้องหาที่ใหม่อีกด้วย นี่คือเหตุผลประการสำคัญที่อยากจะได้ช่วยทางวัดในครั้งนี้
และจะเป็นการเชื่อมแผ่นดินผืนนี้ได้ต่อเนื่องกัน ใครๆ ก็อยากทำบุญหลังจากได้ทราบโครงการนี้ เพราะเห็นว่าเป็นหน้าตาของวัด
ผ่านไปผ่านมาจะได้ดูสวยงามเสียที
เป็นอันว่า หลังจากทำพิธีบวงสรวงแล้ว ตอนบ่ายวันนั้นถือเป็นฤกษ์ดี จึงได้ไปดำเนินการจ่ายเงินทั้งหมด
แล้วทำการโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัดอุทัยธานีทันที วันที่ 2 ก.ค. 52 จึงถือเป็นก้าวแรกที่ได้ที่ดินผืนนี้เป็นจำนวน 2 ไร่ 2 งาน
(พร้อมกับได้สิทธิ์ในที่หนองน้ำอีก 5 ไร่) หลังจากที่ตกค้างอยู่นานเกือบศตวรรษ วันนั้นจึงเป็นวันแห่ง "ประวัติศาสตร์" ของวัดท่าซุง
ซี่งได้มีการโอนเป็นผลสำเร็จ ท่ามกลางความยากลำบาก ในการระดมทุนกันอย่างกระทันหัน
บัดนี้ ที่ดินผืนนี้แม้จะยังได้ไม่ครบถ้วน (ยังเหลืออีก 9 ไร่ ประมาณ 6 เจ้าของ) แต่ก็ได้กลับคืนมาแล้วในนามของ "มูลนิธิหลวงพ่อปาน -
หลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร" โดยได้รับความสะดวกในการทำเอกสารจากประธานมูลนิธิฯ คือ คุณเดือนฉาย คอมันตร์ และเลขานุการมูลนิธิฯ คือ ม.ล.อัชญา
ไชยะโท เป็นอย่างดี
เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ จำเป็นต้องกระทำเป็นความลับและเร่งรีบ เสี่ยงต่อการเข้าใจผิดเป็นอย่างยิ่ง ในหมู่คณะศิษย์หลวงพ่อด้วยกัน
วันนี้จึงได้เปิดเผยความจริงกัน ถึงแม้จะต้องเสี่ยงต่อการล่วงรู้ของเจ้าของที่ดินรายต่อไป แต่ก็ยังดีกว่าพวกเราบางคนเข้าใจผิดกันเอง
พร้อมกันนี้ต้องขออภัยด้วย ที่ยังไม่ลงรายชื่อผู้ที่ทำบุญผ่านหลวงพ่อเจ้าอาวาสที่บ้านสายลม เพราะรายชื่อยังอยู่ที่พระเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
ซึ่งรายชื่อส่วนนี้อาจจะรอลงหนังสือธัมมวิโมกข์ก็ได้
วันที่ 2 กรกฎาคม 2552 เพื่อเป็นการบอกกล่าวเจ้าอาวาสทั้งหลายในอดีตและเทวดาอารักษ์ ก่อนทำพิธีหลวงพ่อเจ้าอาวาส หลวงพี่โอ และหลวงพี่ชัยวัฒน์
ได้เข้าไปถวายผ้าห่มแด่หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
การทำพิธีบวงสรวงเริ่มเวลา 09.00 น. เศษๆ มีญาติโยมภายในวัด และที่เดินทางจากกรุงเทพฯ และพิษณุโลกหลายคน แต่ภายในวัดยังไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้
ถึงอย่างไรก็ตามเริ่มมีคนสงสัยบ้างแล้ว ประการสำคัญ มีเจ้าของที่ดินบางรายอยู่ใกล้ๆ หน้าวัดนี่เอง ในภาพจะเห็นหลวงพ่อเจ้าอาวาสเจิมแป้งที่โฉนดแปลงแรก
เป็นการเอาฤกษ์เอาชัยไว้ก่อน
หลังจากทำพิธีบวงสรวงแล้ว ท่านได้ประพรมน้ำมนต์ให้แก่ผู้ร่วมพิธีทุกคน การบวงสรวงหน้าวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์นี้ ถือว่าเป็นปฐมฤกษ์
เนื่องจากยังไม่เคยทำพิธีบวงสรวงใหญ่มาก่อน
ภาพตัวอย่าง : ตามที่ได้ไปเห็นช่างกำลังก่อสร้างพระพุทธรูป หน้าตัก 38 ศอก ณ วัดเขาช่องชาด ต.อูบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
และพระพุทธรูปทาสีทอง หน้าตักกว้าง 19.19 เมตร ที่เขาสร้างเสร็จแล้ว ณ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ด้วยเหตุนี้ หลวงพี่ชัยวัฒน์ หลวงพี่จำเนียร และ
ท่านพระอาจารย์หนุน จึงได้นำเรียนเสนอหลวงพ่อเจ้าอาวาส
หลังจากวันที่ 2 ก.ค. แล้ว เหตุการณ์ผลิกผัน เจ้าของที่ดินแปลงอื่นๆ ต่างก็ขึ้นราคาสูงกว่าเดิม ทีมงานจึงต้องหยุดยั้งไว้ชั่วคราวก่อน
แต่ถ้าหากความฝันเป็นความจริง ภาพที่ท่านมองเห็นข้างบน นี่คือโครงสร้างองค์พระหน้าตัก 38 ศอก (19 เมตร) คณะศิษย์ท่านอาจารย์หนุนสามารถผูกเหล็กเสร็จภายใน 1
เดือนเท่านั้น ส่วนพระเศียรจะสร้างใหม่เป็น "สมเด็จองค์ปฐม" และยังเป็น "พระชำระหนี้สงฆ์" ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ถ้าเจ้าของที่ดินที่เหลือไม่ขาย
เราก็หาที่สร้างใหม่ก็ได้ หรือใครจะมีความเห็นเป็นเช่นใด..?