....วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๓๕ เวลา ๑๕.๑๒ น. เป็นวันแรกที่หนูเรียนสมาธิ
ได้เห็นอะไรได้หมดทุกอย่าง วันนั้นครูนฤมลพานักเรียนชั้น ป.๖ ชั้นเดียวเท่านั้น ตอนแรกครูนฤมลพาไปที่จุฬามณี แล้วก็ไปสวรรค์ชั้นที่ ๑ ๖
ไปที่ชั้นไหนมีแต่เทวดานางฟ้ามาต้อนรับกัน
...พอไปสวรรค์เสร็จก็ลงมาที่พระจุฬามณี ลงมากราบพระพุทธเจ้า พูดอะไรกันนิดหน่อย เพราะไม่มีเวลามาก จึงขอลากลับมา ครูนฤมลถามว่าไปกันได้ไหม นักเรียนชั้น ป.๖
ตอบว่าไปกันได้ มีความสุขดีค่ะ
...วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๕ เวลา ๑๕.๔๕ น. วันนั้นหลวงปู่ปานท่านมาที่ห้องเรียน มาบอกให้ไปเรียนวิชากับปู่ หนูก็ขึ้นไป ท่านสอนวิชาฌาน
หนูเรียนกับท่านสนุกมาก ท่านบอกอะไรหนูก็ทำทุกอย่าง หนูได้ฌาน ๑ หนูดีใจมาก ท่านบอกว่าพรุ่งนี้ปู่จะไปรับนะ หนูจึงขอลาท่าน
....วันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๕
คุณครูอำไพบอกว่าใครอยากไปเที่ยวสวรรค์บ้าง ฉันยกมือทันที เพื่อนอีกหลายคนก็ยกมือ คุณครูบอกว่า สวดมนต์ไหว้พระก่อน แล้วบอกให้ทุกคนอย่ารังแกคนอื่น
ไม่ลักขโมยใคร ไม่แย่งของรักของชอบคนอื่น ไม่พูดโกหก ไม่กินของที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แล้วคุณครูก็ถามว่า เห็นใครบ้าง? ฉันเห็นหลายๆ คนแต่งตัวแปลกๆ
แต่ไม่รู้จัก
...ครูจึงแนะนำว่าองค์ใหญ่คือพระพุทธเจ้า มีหลวงปู่ปาน หลวงปู่สด หลวงปู่ฤาษี ท่านปู่ ท่านย่า แม่ศรี ทุกท่านมีร่างกายเป็นแก้วหมด
ท่านพาเหาะไปตามสวรรค์ชั้นต่างๆ พาไปดูสถานที่ท่องเที่ยวบนสวรรค์ สิ่งที่ไม่ได้พบก็ได้พบได้เห็น บางวันบนสวรรค์ก็จัดงานสนุกๆ มีของเล่นมากมายเยอะแยะไปหมด
ฉันไปเที่ยวทุกวัน บางวันหลวงปู่ฤาษีก็เล่านิทานตลกให้ฟัง หลวงปู่ใจดีมาก
...บางวันหลวงปู่สดก็เล่านิทานให้ฉันฟัง และเสกยาให้ฉันด้วยเวลาไม่สบาย หลวงปู่ฤาษีสอนฉันหลายอย่าง เช่นไม่ให้ทำความชั่วทุกอย่าง
เพราะจะทำให้เสียสมาธิ หลวงปู่พาฉันไปเที่ยวแดนเนรมิตด้วย พอกลับหลวงปู่ก็ยังให้รางวัลเป็นเงินเป็นของบ้าง
ฉันดีใจมากที่สุดที่หลวงปู่สอนฉันและช่วยเหลือฉันมาตลอดเวลา จะทำอะไรนึกถึงหลวงปู่ก็มาหาทุกครั้ง ฉันรักหลวงปู่มากและจะทำแต่ความดีตลอดไป
....ครูให้ฉันกับเพื่อนๆ ฝึกสมาธิเวลาพักตอนบ่าย
คุณครูเล่าเรื่องการทำความดีต่างๆ แล้วให้หลับตาทำสมาธิ สักครู่หนึ่งครูก็ถามว่า เห็นใครบ้าง? ฉันเห็นหลายคนแต่งชุดแก้วหมด
แต่มีอยู่คนหนึ่งตัวใหญ่กว่าใครและมีแสงออกรอบๆ ตัวมาก คุณครูบอกว่าพระพุทธเจ้า แล้วให้กราบทุกๆ คน
...คุณครูแนะนำให้ฉันรู้จักหลวงปู่ปาน หลวงปู่ฤาษี ท่านปู่ท่านย่า ท่านแม่ศรี ท่านพาฉันไปดูสวรรค์ชั้นต่างๆ ชั้นพรหมและไปเมืองพระนิพพาน
...คุณครูถามว่า ชอบใจที่ไหนมากที่สุด
...ฉันตอบว่า ชอบพระนิพพาน
...เพราะฉันดูชั้นต่างๆ ที่ผ่านมาถึงจะสนุกมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวมา ก็ยังสู้ที่แดนนิพพานไม่ได้ ดูมีความสงบร่มเย็น
มีความสุขกายสุขใจมาก ทุกๆ ท่านบนนี้ก็ใจดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ศรีของฉัน สวยงามที่สุดไม่มีใครเท่า และยังเก่งอีกด้วย แม่ศรีแปลงร่างเป็นเจ้าหญิงก็ได้
เวลาแม่ศรีแปลงร่างก็ยืนอยู่บนดอกบัว
....ผมชื่อเด็กชายดนตรี บุญเพิ่มพูน เป็นนักเรียนชั้น ป.๔
ของโรงเรียนบ้านบวกเปา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ครูใหญ่ชื่อนายเกตุ เขื่อนจินดาวงศ์ ผมได้ไปฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกโดยคุณครูวิไลพรพาไปฝึกกับคุณครูอำไพ สุจนิล
ที่โรงเรียนบ้านแม่โจ้ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนของผมประมาณ ๑๐ กิโลเมตร
...ครั้งแรกที่ไปฝึก เพื่อนและพี่ๆ ตั้งแต่ชั้น ป.๒ ถึง ป.๖ เขาได้กันเยอะ แต่ผมก็ไม่เห็นอะไรเลย แต่ผมก็ไม่ย่อท้อ พยายามฝึกอีกโดยนั่งสมาธิเองที่บ้าน
และที่โรงเรียนในตอนเช้าและกลางวันที่ห้องพระของโรงเรียน และในวันศุกร์ชั่วโมงจริยะ ส่วนในวันเสาร์วันอาทิตย์คุณครูพานักเรียนที่ฝึกได้
ไปฝึกทบทวนที่วัดโขงขาว
...ผมก็ไปด้วย เวลาผมเห็นเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เขาฝึกได้ เขาคุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงสิ่งที่เขาได้ไปพบไปเห็น และเขานำเพชร พลอย
เงินเหรียญบาท ล้อคเก็ตกระดิ่งที่เขาเสกได้ เขาก็นำมาให้คุณครูและเพื่อนๆ ดู ยิ่งทำให้ผมตั้งใจฝึกมากยิ่งขึ้น
รวมเวลาที่ผมใช้ความพยายามตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม เกือบสี่เดือนเต็ม
...เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๓๕ คุณพ่อของหนูได้พาหนูไปฝึกมโนมยิทธิที่วัดโขงขาว
โดยมีคุณครูอำไพ สุจนิล เป็นผู้ฝึกให้ มีผู้ใหญ่และเด็กๆ ฝึกกันหลายคน หนูฝึกได้ คุณครูพาหนูไปเที่ยวสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น และพรหมอีก ๒ ๓ ชั้น
แล้วคุณครูก็พาขึ้นนิพพาน
...จากนั้นมาหนูก็มาฝึกกับคุณครูทุกเสาร์ อาทิตย์ ผลจากการฝึกมโนมยิทธิ หนูขอเล่ารวมๆ กันเป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ
จากที่ไปพบมามากมาย หนูไปเที่ยวสวรรค์เขตที่ ๑ จาตุมหาราชา หนูได้ไปกราบท่านปู่ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ท่านปู่ทั้ง ๔ นี้รูปร่างของท่านออกสีทองอ่อนๆ
สวยสดงดงามมาก เขตที่ ๒ ดาวดึงส์ โดยไปกราบพระพุทธเจ้าที่พระจุฬามณีเจดียสถาน กราบท่านปู่ท่านย่า หลวงพ่อ ท่านแม่
...และขอชมพระเขี้ยวแก้วและพระเกศาของพระพุทธเจ้า ลักษณะของพระเขี้ยวแก้วและพระเกศาเป็นเพชรระยิบระยับสวยสดงดงามมาก
พระเขี้ยวแก้วจะมีมาตั้งแต่พระพุทธเจ้าประสูติมาแล้ว เขตที่ ๔ ดุสิต หนูไปกราบหลวงปู่ปาน ท่านปู่พระศรีอาริยเมตไตรย (คือองค์เดียวกับท่านปู่ครูบาศรีวิชัย)
ซึ่งจะมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ วิมานของท่านปู่ทั้งสองสวยงามมาก เป็นมณฑปประดับด้วยแก้ว
...เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ เวลาประมาณ ๑๐ โมงเช้า
เป็นวันหยุดโรงเรียนเพราะเป็นวันมาฆบูชา ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ก็ขึ้นไปบนสวรรค์เหมือนทุกครั้ง ผมกำหนดใจไปที่พระจุฬามณี
ผมแปลกใจมากเพราะไม่มีใครมารับผมเลย เพราะทุกๆ ครั้งจะมีพระและพี่เทวดา พี่นางฟ้ามารับผม ผมจึงไปที่สวรรค์ชั้นที่ ๑ ก็ไม่มีใครอยู่ มีแต่วิมาน
...จึงไปที่ชั้นที่ ๒ ที่ ๓, ๔, ๕, ๖ และชั้นพรหมทุกชั้นก็ไม่มีใครเหมือนกัน เอ... ท่านเทวดา ท่านพรหม คงไปอยู่บนพระนิพพานกันหมดแน่ๆ
จึงตามขึ้นไปบนพระนิพพานก็ไม่มีใครสักคน ท่านพากันอยู่ที่ไหนกันนะ ผมว่างเหงาจังเลย ไปเล่นกับพี่ช้าง พี่ลิงและลุงครุฑที่ป่าหิมพานต์ดีกว่า
...เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕ เป็นวันหยุดเรียน เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ผม
ด.ช.นพดล ต่อกัน (โจ) นักเรียนชั้น ป.๕ โรงเรียนดอนไชยวิทยา อ.งาว จ.ลำปาง ได้ไปทำงานเพื่อหารายได้พิเศษที่บ้านคุณครูใบบุญ พร้อมกับเพื่อนๆ ๑๐ กว่าคน
พอทำงานไปสักระยะหนึ่ง คุณครูสั่งให้หยุดทำงานก่อน จะให้ไปฝึกสมาธิ คุณครูพาไปบนบ้าน แนะนำให้รู้จักกับคุณครูที่จะสอนฝึกสมาธิ ชื่อคุณครูอำไพ
...พอสวดมนต์จบก็ฝึกสมาธิไป จนรู้สึกว่าตัวผมหมุนติ้วๆ พอหยุดหมุนปั๊บ ผมก็เห็นคนเป็นแก้วเยอะแยะเต็มบ้าน ครูบอกว่าตัวใหญ่มากๆ
คือพระพุทธเจ้า ต่อมาก็หลวงปู่ปาน หลวงปู่ฤาษี และคนอื่นๆ อีก พอครูบอกให้ไปที่ไหน ก็เห็นตัวอีกตัวหนึ่งของตนเองและเพื่อนๆ แยกออกจากตัวจริงๆ ที่นั่งอยู่
...สิ่งที่ข้าพเจ้าจะเขียนต่อไปนี้ เป็นการแนะนำจากท่านพระปลัดวิรัช โอภาโส
เพราะท่านทราบว่าเด็กชายบัญชา เด็กหญิงจารุณี มาหาข้าพเจ้า จะเรียกว่าฝันก็ได้ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๓๕ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสพบกับเด็กทั้งสอง
คือเด็กชายบัญชา เด็กหญิงจารุณี แห่งโรงเรียนแม่เตาไห จังหวัดเชียงใหม่ เธอเป็นเด็กที่ฝึกอภิญญาได้ เธอมากราบหลวงพ่อที่ตึกรับแขก
และเธอได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เธอได้ไปเที่ยวมา
...มีหลวงปู่ท่านได้นำไปตามที่ต่างๆ และวันนั้นเธอยังไม่กลับ น้องพรนุชจึงชวนเธอทั้งสองมานอนที่วิหารร้อยเมตร
และเราได้คุยถึงการปฏิบัติกรรมฐาน เธอบอกว่าหลวงปู่มาสอนการปฏิบัติให้เธอ ถึงการฝึกจิต เธอบอกว่าหลวงปู่มาแนะนำให้เธอตอนกลางคืน
ข้าพเจ้าก็ถามว่าทำจิตอย่างไรจึงไปแบบเต็มกำลังได้ เธอบอกหลวงปู่มาสอนให้เธอทำจิตให้ว่างจากกิเลสทั้งปวง และรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ให้ได้ แล้วภาวนา
...เธอบอกว่าตัวเธอภาวนา พุทโธ ก่อนสักครู่ แล้วก็ภาวนา นะมพะธะ เอาจิตจับอยู่ที่ปลายจมูก ไม่สนใจสิ่งใด ตัดทิ้งให้หมดแล้วจิตจะไปได้
พอรุ่งเช้าเธอก็ลากลับเชียงใหม่ และหลังจากที่เธอกลับไปแล้ว ถ้าจำไม่ผิดในราววันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒ค๓๕ คืนนั้นข้าพเจ้าหลับอยู่ จะว่าหลับสนิทก็อาจจะไม่เชิง
เพราะมีความรู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้องของข้าพเจ้าทั้งๆ ที่ห้องปิดใส่กลอนอยู่
ข้าพเจ้าก็พลิกตัวกลับมาก็เห็นเด็กผู้ชายวิ่งแวบเข้าไปแอบอยู่ใต้โต๊ะเขียนหนังสือ ข้าพเจ้าก็มีความรู้สึกว่าต้องเป็นเด็กชายบัญชาแน่