จริยาวัตรของผู้ถือศีล 8
ผมมีข้อสงสัยอยากจะถามว่า การปฏิบัติตนของผู้ถือศีล 8 (หรือจริยาวัตรของผู้ถือศีล 8) ควรจะปฏิบัติตนอย่างไรครับ เช่น
1. การแต่งกาย ของชาย และหญิง
2. การรับประทานอาหาร
3. การสำรวมกาย วาจา
เนื่องจากผมได้ไปงานธุดงค์ ปี 2553 ที่ผ่านมานี้ ได้เห็นผู้ที่ถือศึล 8 ทั้งพราหมณ์ชาย และ หญิง บางท่านมิได้ทำตามกฎข้อบังคับ
หรือระเบียบปฏิบัติของทางวัดเลย จะเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างของพราหมณ์ชาย
1. เรื่องของการแต่งกายของพราหมณ์ชาย นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว
2. การรับประทานอาหาร เดินกินไป คุยไป
3. การสำรวมกาย วาจา เช่น การตะโกนคุยกัน การปิดประตูห้องพัก การคุยกันในห้องพัก
ตัวอย่างของพราหมณ์หญิง
1. การแต่งกายหลากหลายมาก เช่น เอาผ้าสไบของชีมาสวมแทนผ้าสไบของผู้ถือศีล 8, ใส่กางเกงขายาวบ้าง, ใส่กางเกงขาสั้นบ้าง, ใส่กระโปรงลายฉลุบ้าง,
สวมเครื่องประดับจำนวนมาก. โพกผ้าที่ศรีษะ, ใส่รองเท้าส้นสูง
2. การรับประทานอาหาร ก็คุยกันไปกินกันไป, ยืนรับประทานอาหารและดื่มน้ำ, ทานไม่หมดก็เอาอาหารมาคืนใส่ถาดของร้านโรงทาน,
บางครั้งรอแถวรับอาหารไม่ทันใจก็เข้าไปเอาอาหารในที่ที่เตรียมอาหารของร้านโรงทาน ฯลฯ
3. การสำรวมกาย วาจา เช่น ตะโกนคุยกัน, วิ่งไปหาพระ, แย่งกันเอาพานครู, แย่งที่นั่งกันในเวลาที่มีการฝึกมโนมยิทธิ หรือ ญาณ 8
สิ่งเหล่านี้ ผมเชื่อว่าผู้ที่ถือศีล 8 ที่มาปฏิบัติธรรมในวัดของเรายังขาดระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก หรือว่าผมคิดไปเอง หรือ
ควรจะมีการเคร่งครัดกับผู้ที่มาปฏิบัติธรรมบ้างแล้ว หรือ ควรที่จะให้ทางวัดแบ่งเวลามาจัดอบรมสัมมนาให้กับผู้ถือศีล จะได้เป็นแนวทางเดียวกันในการปฏิบัติตน
เป็นหน้าตาของวัดเรา หรือเป็นการให้ความเคารพต่อหลวงพ่อของเรา ที่ท่านได้ออกกฎระเบียบมาตั้งแต่สมัยท่านยังมีชีวิตอยู่
|
|
เห็นด้วยค่ะ แต่เราก็อย่ายึดติดกับรูปมากนัก มองผ่านๆก็พอ นี่แหละหนอโลกมนุษย์ เบื่อเหลือเกิน
|
|
ครับ เห็นด้วยในเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ลูกหลานทุกคนก็คงอยากให้วัดเป็นระเบียบเรียบร้อยเช่นกัน
ส่วนเรื่องจริยาวัตรของผู้ถือศีล 8 แต่ละคนก็คงขึ้นกับตัวเขาแล้วละครับ
อย่างที่หลวงพ่อเคยสอนไว้เสมอ ๆ ว่าทุกคนต่างก็ต้องการความดี แต่ขึ้นกับกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมอันไหนเข้ามาบดบังไว้
แต่อย่างน้อยคนมาปฏิบัติธุดงค์ที่วัดก็ปรารถนาความดีแหละครับ
จะว่าไปก็ถือซะว่าเป็นตัวอย่างให้หัดทรงพรหมวิหาร แผ่เมตตาให้เขาไป เราถืออุเบกขาไว้
ถ้ายึดติดกับรูปแบบไปนิด ไม่ชอบใจกริยาคนอื่นไปหน่อย ทำไปทำมาเดี๋ยวจะเผลอกลายเป็นว่าเราคอยโจทย์ความผิดของผู้อื่นนะครับ
|
|
| Quote: | Originally posted by คมสัน
ครับ เห็นด้วยในเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ลูกหลานทุกคนก็คงอยากให้วัดเป็นระเบียบเรียบร้อยเช่นกัน
ส่วนเรื่องจริยาวัตรของผู้ถือศีล 8 แต่ละคนก็คงขึ้นกับตัวเขาแล้วละครับ
อย่างที่หลวงพ่อเคยสอนไว้เสมอ ๆ ว่าทุกคนต่างก็ต้องการความดี แต่ขึ้นกับกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมอันไหนเข้ามาบดบังไว้
แต่อย่างน้อยคนมาปฏิบัติธุดงค์ที่วัดก็ปรารถนาความดีแหละครับ
จะว่าไปก็ถือซะว่าเป็นตัวอย่างให้หัดทรงพรหมวิหาร แผ่เมตตาให้เขาไป เราถืออุเบกขาไว้
ถ้ายึดติดกับรูปแบบไปนิด ไม่ชอบใจกริยาคนอื่นไปหน่อย ทำไปทำมาเดี๋ยวจะเผลอกลายเป็นว่าเราคอยโจทย์ความผิดของผู้อื่นนะครับ |
ขออนุโมทนาครับ
|
|
**********************
| Quote: | Originally posted by คมสัน
ครับ เห็นด้วยในเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ลูกหลานทุกคนก็คงอยากให้วัดเป็นระเบียบเรียบร้อยเช่นกัน
ส่วนเรื่องจริยาวัตรของผู้ถือศีล 8 แต่ละคนก็คงขึ้นกับตัวเขาแล้วละครับ
อย่างที่หลวงพ่อเคยสอนไว้เสมอ ๆ ว่าทุกคนต่างก็ต้องการความดี แต่ขึ้นกับกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมอันไหนเข้ามาบดบังไว้
แต่อย่างน้อยคนมาปฏิบัติธุดงค์ที่วัดก็ปรารถนาความดีแหละครับ
จะว่าไปก็ถือซะว่าเป็นตัวอย่างให้หัดทรงพรหมวิหาร แผ่เมตตาให้เขาไป เราถืออุเบกขาไว้
ถ้ายึดติดกับรูปแบบไปนิด ไม่ชอบใจกริยาคนอื่นไปหน่อย ทำไปทำมาเดี๋ยวจะเผลอกลายเป็นว่าเราคอยโจทย์ความผิดของผู้อื่นนะครับ |
|
|
|
|
|
|
อัตตนา โจทยตานัง
ก็ถูกอยู่ค่ะ แต่ถ้ากุศลของผู้ดูตนยังหยาบอยู่ก็คงมองไม่เห็นว่าสิ่งที่ตนทำนั้น เป็นจริยาที่ไม่ควร เพราะกายกรรมที่แสดงออกมานั้น
เริ่มต้นด้วยจากจิตภายใน ที่ไม่ยับยั้ง ไม่สำรวม การจะฝึกคนหมู่มากคงต้องใช้ปัจจัยทั้งจากภายในของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญหนึ่ง และปัจจัยภายนอกที่คอยควบคุม
จะเป็นการช่วยเร่งรัดในการปฏิบัติได้มาก เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ว่าควรมีการอบรมหรือชี้แจงระเบียบปฏิบัติที่เคร่งครัดและควรถือเป็นแบบอย่างที่ดี
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะวัดเรามีทั้งผู้ที่มาเก่าและใหม่ เพิ่มขึ้นทุกๆปี เมื่อไม่ทราบข้อที่ควรถือปฏิบัติ ก็ตามใจตน
เพราะกุศลของแต่ละคนไม่เท่ากันหยาบบ้าง ละเอียดมาก น้อยบ้าง ซึ่งมองแล้ว สำหรับผู้มาใหม่หรือหลายๆ ท่านที่เข้าร่วมธุดงค์วัตร
ทุกปีคงต้องมีการมองเรื่องๆนี้กันมาโดยตลอด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกหลวงพ่อฯ จะดียิ่งๆขึ้นไป ถ้าทางวัดมีการออกกฏระเบียบ วินัย ที่ชัดเจน
และผู้เข้าร่วมฯมีความพร้อมเพรียงกันในการปฏิบัติ คงเป็นที่น่าชื่นใจและเจริญศรัทธาแก่ผู้มาใหม่ในภายหลังและพร้อมจะดำเนินรอยตามเป็นอย่างดีค่ะ
|
|
ใครปฏิบัติอย่างไร ได้อย่างนั้นนะคะ
ขอโมทนากับผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบทุกท่านคะ เพียงก็เห็นเหมือนอย่างท่านที่ได้โพสต์ถามมาเช่นกันค่ะ คนหมู่มากนะคะ ต้องทำใจค่ะ
|
|
อันนี้เป็นความความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้าได้อ่านรายงานข่าวศูนย์ฯ ทางธัมมวิโมกข์ที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการปฐมนิเทศก์ คือการจัดอบรมก่อนงานธุดงค์
จะเป็นไปได้ไหมว่าบางคนที่เพิ่งจะเข้าร่วมปฏิบัติธรรม แล้วมีจริยาไม่เหมาะสม อาจจะเป็นเพราะมาไม่ทันการอบรมก่อน
จึงไม่ค่อยรู้จริยามารยาทและธรรมเนียมการปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด ที่ได้จัดปฐมนิเทศก์ไว้ในวันเปิดงานธุดงค์ นี่ไม่ได้แก้ตัวให้วัดนะครับ
เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น เพราะปีนี้คนมากเหลือเกิน โดยเฉพาะการฝึกเต็มกำลังวันเสาร์-อาทิตย์ หลังจากจัดปฐมนิเทศก์เพียงวันเดียวเท่านั้น
ทีมงานฯ
|
|
หลวงพ่อเคยสอนเราว่า เราเห็นคนอื่นเลวมากเราก็ชั่วมาก เราเห็นคนอื่นเลวน้อย เราก็ชั่วน้อย เราไม่เห็นคนอื่นเลวเลย ก็แสดงว่าเราไม่ชั่วเลย
มีแต่คนที่เกิดมาตามกรรม แล้วก็ไปตามกรรม ผมเคยฟังเทปหลวงพ่อสอนอย่างงี้ครับ
|
|
เมตตา ด้วยการบอกเขาก่อน จะดีนะครับ แล้วถ้าไม่ได้เรื่องจริงๆ ก็อุเบกขา ดีไหมครับ
|
|
![[*]](./images/corporate/default_icon.gif){kind=icon}
posted on 19/12/10 at 11:30