หอระฆัง (หอกลอง)
หอระฆังหรือหอกลอง
อยู่ด้านซ้ายมือของพระอุโบสถ (หน้าร้านอาหารป้ากิมกี) หอระฆังหลังนี้มี ๒ ชั้น ชั้นล่างเป็นที่อยู่เวร เดิมเรียกว่า "ป้อมยาม"
สำหรับพระภิกษุเปลี่ยนเวรกันอยู่ในตอนกลางคืน (แต่ตอนนี้ย้ายไปที่ "ป้อมยาม" หลังใหม่ข้างศาลานวราชแล้ว) ชั้นบนมีกลองและระฆังใบใหญ่
ที่พระวัดท่าซุงจะนิยมตีกันในช่วงวันเข้าพรรษา
ส่วนตรงกลางระหว่างกลองกับระฆังนั้น คือ "นกหัสดีลิงก์" (เป็นนกที่เกี่ยวกับโบราณคดีในป่าหิมพานต์
รูปร่างคล้ายหงส์แต่มีงวงเป็นช้าง)
ส่วนนี้มีความสำคัญเหมือนกัน คนรุ่นหลังอาจจะไม่ค่อยรู้ประวัติความเป็นมา นกหัสดีลิงก์ตัวนี้เป็นสิ่งของที่ "หลวงปู่ครูบาธรรมไชย" วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง
จ.เชียงใหม่ เป็นผู้นำมาถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความดีนั่นเอง ก่อนงานฝังลูกนิมิต เมื่อวันที่ ๑๖-๒๔ เมษายน ๒๕๒๐
เคยได้ยินหลวงพ่อเล่าให้ฟังที่บ้านสายลมสมัยก่อนว่า หลวงปู่ธรรมไชยเป็นพรหมรุ่นพี่ มีชื่อว่า "วิสุทธิเกษีพรหม" ปรารถนาพุทธภูมิเหมือนกัน
และในสมัยโยนกนครเชียงแสน หลวงปู่เกิดเป็น "พระเจ้าชัยศิริ" พระโอรสของพระเจ้าพรหมมหาราช ส่วน "หลวงปู่คำแสน" (เล็ก) วัดดอนมูล
จ.เชียงใหม่ เคยเกิดเป็น "ทุพภิกขะ" พี่ชายของพระเจ้าพรหมมหาราช
การที่หลวงพ่อสร้าง "หอระฆัง หรือ หอกลอง" หลังนี้ โดยที่มีหลังคาเป็นจตุรมุขส่วนงาม ท่านคงจะสร้างจำลองมาจากบนวิมานของท่านที่พระนิพพาน
ถ้าหากย้อนไปอ่านหนังสือ "ประวัติหลวงพ่อปาน" ตอนที่ท่านเล่า "ตายครั้งที่ ๓" ท่านได้ขึ้นไปพบว่ามี "หอระฆัง" อยู่ด้านหน้าวิมานของท่านด้วย
|
![[*]](./images/corporate/default_icon.gif){kind=icon}
posted on 9/7/08 at 10:49
