อาคารพิพิธภัณฑ์ "สมบัติพ่อให้"
เป็นอาคารใหม่ที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ (คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ๓ ปี) ใช้เป็นอาคารเก็บพระพุทธรูป พระเครื่องและวัตถุมงคลที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อปาน
วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยานได้จัดสร้างไว้ อีกทั้งยังใช้เป็นห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ห้องประชุม/สัมมนาอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์สมบัติพ่อให้เป็นอาคารรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบสุโขทัยประยุกต์ เฉพาะตัวอาคารมีพื้นที่ประมาณ ๑ ไร่ อยู่ในบริเวณป่าใหม่ ลานธรรม
(ตรงข้ามปราสาททองคำและ ๒๕ ไร่) เป็นอาคาร ๓ ชั้น โดยชั้นที่ ๒ จัดสร้างเป็นห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถือเสมือนเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม
และห้องประชุม/สัมมนา
ส่วนชั้นที่ ๓ ใช้เป็นที่เก็บพระพุทธรูป พระเครื่องและวัตถุมงคลที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อปาน
วัดบางนมโคและหลวงพ่อพระราชพรหมยานได้จัดสร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ลุกหลานรุ่นหลัง
ความเป็นมาในการก่อสร้าง
เรื่องนี้ พ.ต.อ.อรรณพ กอวัฒนา ได้กรุณาเล่าให้ฟัง เมื่อวันวิสาขบูชาที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ไว้ว่า ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีการจำหน่ายสังฆทานครบชุด
ต้องไปเช่าบูชาพระพุทธรูปขนาดหน้าตักต่างๆ กันเพื่อถวายเป็นสังฆทาน ทำให้ที่วัดมีพระพุทธรูปสะสมมาจากการถวายสังฆทานนับเป็นหมื่นๆองค์
ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้ปรารภเสมอว่าท่านไม่สบายใจเลยที่พระพุทธรูปถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม และถึงแม้จะสร้างปราสาททองคำและวิหารหลวงพ่อ
๕ พระองค์ เพื่อส่วนหนึ่งใช้เก็บพระพุทธรูปแต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงได้ดำริที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์สมบัติพ่อให้ขึ้น เพื่อใช้เป็นที่เก็บพระพุทธรูป พระเครื่อง
และวัตถุมงคล ที่หลวงพ่อปานและหลวงพ่อฤาษีได้สร้างไว้ที่ชั้น ๓ ของตัวอาคาร
(ภาพนี้ถ่ายเมื่อ วันที่ ๒๔ ก.ค. ๒๕๕๑ ขณะทำการก่อสร้างมาได้เพียงไม่กี่เดือน)
สำหรับชั้น ๒ ซึ่งจัดเป็นห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์และห้องประชุม/สัมมนานั้น พ.ต.อ. อรรณพได้เล่าให้ฟังว่า
ด้วยเหตุที่วัดท่าซุงไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แห่งนี้จะเปรียบเป็นเสมือนโรงเรียนพระปริยัติธรรมในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
เพราะถึงวัดท่าซุงจะเป็นวัดสายปฏิบัติแต่ก็ไม่ทิ้งความรู้ด้านปริยัติ ในส่วนของห้องจัดประชุม/สัมมนา สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ได้ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส
เนื่องด้วยที่วัดมีพระสงฆ์มาก สถานที่นี้จึงสามารถใช้เป็นที่ประชุมสงฆ์ได้
อีกทั้งในส่วนของโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระ ซึ่งในปีพ.ศ. ๒๕๕๐ มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เต็ม ๑๐๐%
อันนับเป็นอันดับหนึ่งในเขตภาคเหนือ ทำให้มีคณะครู นักเรียนและส่วนราชการต่างๆขอมาศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก
แต่ที่โรงเรียนฯมีสถานที่ไม่พอรองรับกับจำนวนคนที่มา จึงได้สร้างห้องจัดประชุม/สัมมนาขึ้นมาเพื่อใช้ต้อนรับคณะต่างๆที่มาดูงาน
และยังสามารถใช้เป็นห้องบรรยาย ในกรณีที่ได้เชิญวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญภายนอกทั้งในประเทศและต่างประเทศมาอบรมให้ความรู้ทั้งกับครูและนักเรียนด้วย
|