Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 27/5/11 at 15:26 [ QUOTE ]

รวมบทสวดมนต์ และ อนุโมทนาและให้พร (VIDEO และ MP3)


รวมบทสวดมนต์ และ อนุโมทนาและให้พร


เสียงสวดมนต์บทต่างๆ
ลำดับที่รายชื่อบทสวดมนต์คลิกฟังเสียง
03-2สวดมนต์ (แบบล้านนา)
04 บทธัมมจักรฯ
05บทเพลงพุทธัง สรณัง
06บทเพลงถวายพรพระ
07บทเพลงคาถาชินบัญชร


คลิปเสียงชุดนี้ ลิขสิทธิ์เป็นของวัดท่าซุง จัดทำโดยพระเจ้าหน้าที่ "ศาลานวราช"




กาเลทะทันติ (กาละทานะสุตตะคาถา)
(บทนี้นิยมให้พรเนื่องในงานทอดกฐิน)



กาเล ทะทันติ สะปัญญา กาเลนะ ทินนัง อะริเยสุ
วิปปะสันนะมะนา ตัสสะ เย ตัตถะ อะนุโมทันติ
นะ เตนะ ทักขิณา โอนา ตัสมา ทะเท อัปปะฏิวานะจิตโต
ปุญญานิ ปะระโลกัสมิง วะทัญญู วีตะมัจฉะรา อุชุภูเตสุ ตาทิสุ
วิปุลา โหติ ทักขิณา เวยยาวัจจัง กะโรนติ วา เตปิ ปุญญัสสะ ภาคิโน
ยัตถะ ทินนัง มะหัปผะลัง ปะติฏฐา โหนติ ปาณินันติ ฯ

ทายกทั้งหลายเหล่าใด, เป็นผู้มีปัญญามีปรกติรู้จักคำพูด ปราศจากตระหนี่
มีใจเลื่อมใสแล้วในพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้ตรงคงที่, บริจาคทาน
ทำให้เป็นของที่ตนถวายโดยกาลนิยมในกาลสมัย,
ทักษิณาของทายกนั้นเป็นคุณสมบัติ มีผลไพบูลย์
ชนทั้งหลายเหล่าใดอนุโมทนา หรือช่วยกระทำการขวนขวายในทานนั้น
ทักษิณาทานของเขามิได้บกพร่องไป ด้วยเหตุนั้น
ชนทั้งหลายแม้เหล่านั้นย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนั้นด้วย
เหตุนั้น ทายกควรเป็นผู้มีจิตไม่ท้อถอย, ให้ในที่ใดมีผลมากควรให้ในที่นั้น
บุญย่อมเป็นที่พึ่งอาศัยของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า ฉะนี้





อายุโท (โภชนทานานุโมทนาคาถา)


อายุโท พะละโท ธีโร วัณณะโท ปะฏิภาณะโท ผู้มีปัญญา ให้อายุ ให้กำลัง ให้วรรณะ ให้ปฏิภาณ
สุขัสสะ ทาตา เมธาวี สุขัง โส อะธิคัจฉะติ ผู้มีปัญญา ให้ความสุข ย่อมได้ประสพสุข
อายุง ทัตวา พะลัง วัณณัง สุขัญจะ ปะฏิภาณะโท บุคคลผู้ให้อายุ พละ วรรณะ สุขะ แลปฏิภาณ
ทีฆายุ ยะสะวา โหติ ยัตถะ ยัตถูปะปัชชะตีติ ฯ บังเกิดในที่ใดๆย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศในที่นั้นๆ ดังนี้




อัคคะโตเว (อัคคัปปะสาทะสุตตะคาถา)

อัคคะโต เว ปะสันนานัง อัคเค พุทเธ ปะสันนานัง
อัคเค ธัมเม ปะสันนานัง อัคเค สังเฆ ปะสันนานัง
อัคคัสมิง ทานัง ทะทะตัง อัคคัง อายุ จะ วัณโณ จะ
อัคคัสสะ ทาตา เมธาวี เทวะภูโต มะนุสโส วา
อัคคัง ธัมมัง วิชานะตัง ทักขิเณยเย อะนุตตะเร
วิราคูปะสะเม สุเข ปุญญักเขตเต อะนุตตะเร
อัคคัง ปุญญัง ปะวัฑฒะติ ยะโส กิตติ สุขัง พะลัง
อัคคะธัมมะสะมาหิโต อัคคัปปัตโต ปะโมทะตีติ ฯ

เมื่อบุคคลรู้จักธรรมอันเลิศ, เลื่อมใสแล้วโดยความเป็นของเลิศ
เลื่อมใสแล้วในพระพุทธเจ้า ผู้เลิศ ซึ่งเป็นทักขิไณยยะบุคคล อันเยี่ยมยอด
เลื่อมใสแล้วในพระธรรม อันเลิศ ซึ่งเป็นธรรมปราศจากกามระคะ สงบระงับ เป็นสุข
เลื่อมใสแล้วในพระสงฆ์ ผู้เลิศ เป็นบุญญะเขตอย่างยอดเยี่ยม

ถวายทานในท่านผู้เลิศ บุญที่เลิศย่อมเจริญ อายุ วรรณะ ที่เลิศ และยศ เกียรติคุณ สุขะ พละ ที่เลิศย่อมเจริญ ผู้มีปัญญาตั้งมั่นในธรรมอันเลิศ และให้ทานแก่ท่านผู้มีธรรมอันเลิศ, จะไปเกิดเป็นเทวดา หรือเป็นมนุษย์ก็ตาม ย่อมถึงความเป็นผู้เลิศอันบันเทิง, อยู่ดังนี้ แล





ยัสมิง (เทวะตาทิสสะทักขิณานุโมทนาคาถา)

ยัสมิง ปะเทเส กัปเปติ วาสัง ปัณฑิตะชาติโย ชาติกูลที่เป็นบัณฑิต สำเร็จการอยู่ในประเทศสถานที่ใด
สีละวันเตตถะ โภเชตวา สัญญะเต พรัหมะจาริโน พึงเชิญเหล่าท่านที่มีศิลสำรวมระวัง ประพฤติพรหมจรรย์เลี้ยงดูกันในที่นั้น
ยา ตัตถะ เทวะตา อาสุง ตาสัง ทักขิณะมาทิเส เทพดาเหล่าใด มีในที่นั้น ควรอุทิศทักษิณาทานเพื่อเทพดาเหล่านั้นด้วย
ตา ปูชิตา ปูชะยันติ มานิตา มานะยันติ นัง เทพดาที่ได้บูชาแล้ว ท่านย่อมบูชาบ้าง ที่ได้นับถือแล้ว ย่อมนับถือบ้าง
ตะโต นัง อะนุกัมปันติ มาตา ปุตตังวะ โอระสัง แต่นั้น ท่านย่อมอนุเคราะห์เขา ประหนึ่งมารดาอนุเคราะห์บุตร อันเป็นโอรส
เทวะตานุกัมปิโต โปโส สะทา ภัทรานิ ปัสสะติ ฯ บุรุษได้อาศัยเทพดาอนุเคราะห์แล้ว ย่อมเห็นกิจการอันเจริญทุกเมื่อ.

ยานีธะภูตา (เทวะตาทิสสะทักขิณานุโมทะนะกะถา)

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิ วะ อันตะลิกเข หมู่ภูตเหล่าใดเป็นภุมเทวดาก็ดี, เหล่าใดสถิตแล้ว ในอากาศก็ดี, ซึ่งมาประชุมกันแล้วในที่นี้

สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง ขอหมู่ภูตเหล่านั้นทั้งหมดเทียวจงเป็นผู้มีจิตโสมนัส อนึ่ง จงฟังภาษิตโดยเคารพ

สุภาสิตัง กิญจิปิ โว ภะเณมุ ปุญเญ สะตุปปาทะกะรัง อะปาปัง เราจะกล่าวสุภาษิตแม้บางประการแก่ท่านทั้งหลาย ไม่เป็นบาป เป็นเครื่องทำความเตือนสติในบุญ

ธัมมูปะเทสัง อะนุการะกานัง ตัส๎มา หิ ภูตานิ สะเมนตุ สัพเพ เป็นอุบายเครื่องแนะนำอันชอบธรรมของบุคคลผู้กระทำตามทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแลหมู่ภูตทั้งปวงจงฟังเถิด

เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ ภูเตสุ พาฬหัง กะตะภัตติกายะ ท่านทั้งหลายจงกระทำไมตรีจิตในหมู่สัตว์มนุษยชาติ ผู้มีภักดีอันทำแล้วมั่นในหมู่ภูต

ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง ปัจโจปะการัง อะภิกังขะมานา มนุษย์ทั้งหลายเหล่าใด ย่อมนำกระทำพลีกรรม ในกลางวันหรือกลางคืน มุ่งหวังอยู่ซึ่งความอุดหนุนตอบแทน

เต โข มะนุสสา ตะนุกานุภาวา ภูตา วิเสเสนะ มะหิทธิกา จะ มนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นแล เป็นผู้มีอานุภาพน้อย ส่วนภูตทั้งหลายเป็นผู้มีฤทธิ์มากโดยแปลกกัน

อาทิสสะมานา มะนุเชหิ ญาตา ตัส๎มา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ เป็นพวกอทิสสมานกาย ที่มนุษย์ทั้งหลายรู้จัก เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาท รักษามนุษย์เหล่านั้นเถิด.



อะทาสิ เม (ติโรกุฑฑะกัณฑะปัจฉิมภาค)



อะทาสิ เม อะกาสิ เม ญาติมิตตา สะขา จะ เม
บุคคลมาระลึกถึงอุปการะอันท่านได้ทำแก่ตนในกาลก่อนว่า, ผู้นี้ได้ให้สิ่งนี้แก่เรา ผู้นี้ได้ทำกิจนี้ของเรา
ผู้นี้เป็นญาติ เป็นมิตร เป็นเพื่อนของเรา ดังนี้
เปตานัง ทักขิณัง ทัชชา ปุพเพ กะตะมะนุสสะรัง
ก็ควรให้ทักษิณาทาน เพื่อผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้ว
นะ หิ รุณณัง วา โสโก วา ยา วัญญา ปะริเทวะนา
การร้องไห้ก็ดี การเศร้าโศกก็ดี หรือการร่ำไรรำพันอย่างอื่นก็ดี, บุคคลไม่ควรทำทีเดียว
นะ ตัง เปตานะมัตถายะ เอวัง ติฏฐันติ ญาตะโย
เพราะว่าการร้องไห้เป็นต้นนั้น,ไม่เป็นประโยชน์แก่ญาติทั้งหลายผู้ละโลกนี้ไปแล้ว ญาติทั้งหลายย่อมตั้งอยู่อย่างนั้น

อะยัญจะ โข ทักขิณา ทินนา สังฆัมหิ สุปะติฏฐิตา
ก็ทักษิณานุปทานนี้แล อันท่านให้แล้ว ประดิษญานไว้ดีแล้วในสงฆ์
ทีฆะรัตตัง หิตายัสสะ ฐานะโส อุปะกัปปะติ
ย่อมสำเร็จประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วนั้น, ตลอดกาลนาน ตามฐานะ
โส ญาติธัมโม จะ อะยัง นิทัสสิโต
ญาติธรรมนี้นั้น ท่านได้แสดงให้ปรากฏแล้ว
เปตานะ ปูชา จะ กะตา อุฬารา
แลบูชาอันยิ่ง ท่านก็ได้ทำแล้วแก่ญาติทั้งหลายที่ได้ละโลกนี้ไปแล้ว
พะลัญจะ ภิกขูนะมะนุปปะทินนัง
กำลังแห่งภิกษุทั้งหลายชื่อว่าท่านได้เพิ่มให้แล้วด้วย
ตุมเหหิ ปุญญัง ปะสุตัง อะนัปปะกันติ ฯ
บุญไม่น้อย ท่านได้ขวนขวายแล้ว ดังนี้แล.

(พระสงฆ์ให้พรบทนี้นิยมให้พรเนื่องในงานญาปนกิจศพ)

ที่มา - dhammajak.net, buddhakhun.org, watpadonsawan.blogspot.com


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top