การฝึกมโนยิทธิ
มีปัญหาจะเรียนถามครูผู้ฝึกมโนยิทธิ
-เคยฝึกมโนยิทธิได้แล้วครั้งหนึ่งและได้ขึ้นไปฝึกญาณ 8 ข้างบนชั้น 2 (ซอยสายลม)
ระยะหลังๆประมาณเกือบปีไม่ได้ไปฝึกญาณ8(เพราะสุขภาพไม่ดี)
-จะเรียนถามครูผ่านเวปว่า ผมจะต้องเริ่มไปฝึกมโนยิทธิใหม่เลยได้หรือไม่ มีความรู้สึกกลัวเป็นอุปทานครับ
เรียนขอคำแนะนำครับ ปกติจะไปซอยสายลมทุกเดือน
ประทีปฯ ดุสิต
|
|
สำหรับผมเคยไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลมได้แล้ว แต่มาช่วงหลังไม่ได้ฝึกอีกเลย อยากจะเรียนถามครูผู้ฝึกว่าจะสามารถนั่งเองที่บ้านใหม่ ได้หรือไม่ครับ
หรือต้องไปยกครูที่บ้านสายลมใหม่ครับ
|
|
ช่วยกรุณาส่องทางธรรมให้ด้วยครับ
|
|
เรียนถามครูทุกท่านด้วยครับ
|
|
เรียนถามอีกอย่างครับ
วิชามโนยิทธินี้จำเป็นไหมครับว่าต้องมีการฝึกเฉพาะที่วัดท่าซุงหรือวัดสาขา หรือที่สายลม ครับ
|
|
ขอตอบรวมๆ กันเลยว่า
- วิชามโนยิทธินี้มีแบบแผนจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ถ้าจะฝึกกับผู้ที่เคยฝึกได้แล้วไปจากวัดท่าซุงก็ได้ เพราะท่านเคยอนุญาตให้ไปฝึกต่อ
ส่วนบางคนอยากไปฝึกที่วัดหรือบ้านสายลม เพราะมีครูฝึกประจำ ซึ่งส่วนใหญ่เคยรับการฝึกกับหลวงพ่อมาก่อน
- เรื่องการฝึกนี้ ถือไม่มีใครผิดใครถูก หมายถึงทั้งครูและศิษย์ ซึ่งแล้วแต่ความเข้าใจในระหว่างการฝึก บางทีร่างกายพักผ่อนไม่พอก็ฝึกไม่ได้
- ส่วนที่เคยฝึกได้แล้ว มีเยอะที่เอาไปทิ้งที่บ้าน แล้วกลับมาฝึกอีกก็แสนยาก เห็นบ่นกันไปหลายคน จิตเริ่มกลัวอุปาทานอย่างคำถามแรกนั่นแหละ
เพราะเริ่มรู้ทางบ้างแล้ว พอกลับมาฝึกใหม่ก็ไม่มั่นใจตนเอง ปัญหาสารพัด
- ตามความเห็นของผู้ตอบ คิดว่าน่าจะเริ่มฝึกใหม่ โดยการวางอารมณ์ที่เคยฝึกเก่ามาทั้งหมด แล้วเริ่มต้นเหมือนคนที่ไม่เคยฝึกเลย ส่วนการวางอารมณ์ต้องเฉยๆ
ได้หรือไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร
- สมัยก่อนมีเยอะ ที่หลวงพ่อท่านตำหนิคนที่ได้ของดีแล้วเอาไปทิ้งเสีย วิชาความรู้ที่ท่านนำมาสอนนี้ กว่าท่านจะได้มาก็แสนยาก
พอเราฝึกได้ง่ายก็กลับไม่รู้คุณค่า
- เอาละ อย่าเอ่ยเรื่องที่ผ่านไป เมื่อเสื่อมไปแล้วก็เริ่มต้นใหม่ จะไปฝึกที่วัดหรือที่สายลม หรือที่โคราชก็ได้ สถานที่ทั้ง 3 แห่งนี้
หลวงพ่อเจ้าอาวาสเป็นผู้กำหนดครูผู้ฝึกให้โดยเฉพาะ เมื่อฝึกกับครูได้แล้ว ควรนำไปฝึกฝนตนเองให้คล่องที่บ้าน
- ความสำคัญสำหรับทุกคน เมื่อฝึกได้แล้ว ทำอย่างไรจะไม่เสื่อม ท่านแนะนำไว้ดังนี้
1. ต้องฝึกหลักสูตร "พระโสดาบัน" ไว้อยู่เสมอ
2. ไม่ถือมงคลตื่นข่าว ควรมั่นใจในคุณพระรัตนตรัย สมัยนี้รู้สึกตื่นๆ พระอริยเจ้ากันง่าย
3. พยายามโจทความผิดตนเองไว้เสมอ และอย่าสนใจจริยาของผู้อื่นเกินไป
ขอฝากไว้ 3 ข้อตามที่หลวงพ่อสอนไว้เพียงแค่นี้ พร้อมกับให้ข้อคิดไว้อีกว่า
...."วิชามโนมยิทธิ" เป็นเพียงแค่ไฟส่องทางเท่านั้น แต่หลักใหญ่จริงๆ คือ สังโยชน์ 10 ประการ เราจะได้มโนมยิทธิชัดเจนแค่ไหนก็ตาม หากยังตัดสังโยชน์ไม่ได้
มโนมยิทธิของเรานั้นก็เป็นแค่เพียง...ฌานโลกีย์ เท่านั้น
แต่หากว่าเราฝึกมโนมยิทธิไม่ได้ หรือได้ไม่ชัดเจน แต่ถ้าเรากำลังปฏิบัติตามหลักสูตร "พระโสดาบัน" เท่านี้ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่กำลังจะเข้าสู่..อริยะมรรค
อริยะผลแล้ว
เพราะฉะนั้น มโนมยิทธิถือว่ายังเป็นรอง ต้องเข้าสู่พระโสดาปฏิมรรค และพระโสดาปฏิผล นี่คือหัวใจสูงสุดของการปฏิบัติธรรม
แล้วจะไม่พบกับคำว่า "เสื่อม" ไม่พบกับคำว่า "ถอย" อีกต่อไป
เพราะเรากำลังเดินเข้าสู่ประตูแห่ง "พระนิพพาน" แล้วอย่างเที่ยงแท้แน่นอน
เป็นการจำกัดภพชาติ และความทุกข์ทั้งหลาย จะเป็นผู้มีการเกิดอีกไม่เกิน 3 ชาติ 7 ชาติ หรือเพียงแค่ชาติเดียวก็บรรลุคุณธรรมสูงสุด
เป็นการจบกิจในพระพุทธศาสนา ได้ชื่อว่าเป็น พระอเสขะบุคคล เพราะได้บรรลุคุณธรรม พร้อมไปด้วย..โลกุตตรธรรม ไม่เสื่อมไม่ถอย ไม่พลาด ไม่แคล้ว ไม่คลาด ไม่พลาด
ไปจากพระนิพพาน อย่างแน่นอน
นี่คือหลักสูตร หลวงพ่อพระราชพรหมยาน แห่งวัดท่าซุง ผู้บำเพ็ญบารมีมานาน 16 อสงไขย ได้ทิ้งมรดกธรรมไว้เป็นชาติสุดท้ายของท่าน
ท่านเป็นผู้ไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว เป็นผู้เที่ยงแท้แน่นอนแห่งโมกขธรรม ท่านได้ทำให้แจ้งที่สุดแห่งทุกข์ ท่านได้บรรลุธรรมอันสูงสุด
ท่านได้จบกิจในพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านไม่มีภพหน้าอีกแล้ว ท่านได้สลัดความเศร้าหมองแห่งกิเลส เหมือนสลัดโซ่ที่พันธนาการไว้ทั้งหมด
ความทุกข์ได้หมดสิ้นแห่งอุปาทาน จิตของท่านจึงผ่องใสส่องจรัส ใจของท่านประภัสสร มีประกายแววายดุจเพชรแท้
เพราะท่านได้กระทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างครบถ้วนแล้วนั่นเอง...
สาธุ..สาธุ..สาธุ
ทีมงานฯ
|
|
|
|
|
|
ผมว่าตำตอบนี้ของทีมงานเป็นประโยชน์มาก เป็นการให้กำลังใจและชี้ทางปฏิบัติด้วย คงมีหลายท่านที่ประสบกับเหตุเช่นนี้ ขออนุโมทนามิครับ
|
|
สาธุ..สาธุ..สาธุครับ จะน้อมไปปฏิบัติตามที่ทีมงานแนะนำให้จงได้ และเพื่อทดแทนคุณพ่อผู้มีพระคุณอันไพศาลหาประมาณมิได้ ครับ
|
|