Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 29/9/17 at 11:34 [ QUOTE ]

พระอรหันต์คือใคร ? เราสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าใครเป็นพระอรหันต์ ?


สารบัญ (เลือกคลิกที่รายการ)

[01]
ตอนที่ ๑
[02] ตอนที่ ๒
[03] ตอนที่ ๓

(ตอนที่ ๑)

พระอรหันต์คือใคร ?
เราสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าใครเป็นพระอรหันต์ ?


...ท่านผู้อ่านคงได้พบบทความที่แชร์กันอยู่เวลานี้ ซึ่งผู้เขียนบทความได้ให้ความรู้กว้างขวางมาก พร้อมทั้งอ้างพุทธพจน์ไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะตอนสรุปว่า..

"...มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนก็คงจะพอทราบแล้วบ้างว่า อรหันต์นั้นคืออะไร แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้ว ความเป็นอรหันต์นั้นเป็นสิ่งที่รู้เฉพาะตน

และ มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทราบว่าใครคืออรหันต์ เพราะในพุทธกาล แม้อรหันต์ด้วยกันเองยังมองกันไม่ออก

...สรุปแล้วสิ่งที่โพสนี้จะสื่อก็คือ ‘เราไม่ควรพูดหรือคิดว่าภิกษุรูปใดเป็นหรือไม่เป็นอรหันต์ด้วยทิฏฐิของตนเอง’
...เพราะเราไม่มีญาณหยั่งรู้เหมือนพระพุทธเจ้า และนอกจากท่านก็ไม่มีใครสามารถมองใครออก
...ที่สำคัญ ‘อรหันต์ในพุทธกาลต่างละอายที่จะบอกกล่าวว่าตนเป็นอรหันต์’ เพราะจะเข้าข่ายอวดอุตริ..!"


...นี่เป็นการยกพุทธพจน์มาอ้างอิง พร้อมทั้งใส่ความเห็นไปด้วย ทำนองว่ายืนคนละฝั่ง ซึ่งพอจะมองเห็นได้เป็น ๒ ประเดิน คือ

- ๑. ความเป็นอรหันต์นั้นเป็นสิ่งที่รู้เฉพาะตน มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทราบว่าใครคืออรหันต์
- ๒. อรหันต์ในพุทธกาลต่างละอายที่จะบอกกล่าวว่าตนเป็นอรหันต์ เพราะจะเข้าข่ายอวดอุตริ

...ในข้อที่ ๑ ขอเสนอความเห็นด้วยว่า ถูกต้องแล้ว ไม่ต้องถึงอรหันต์ แค่อารมณ์ฌาน ท่านก็ต้องรู้ดีแล้วว่า ตนเองได้สมาธิถึงขั้นไหน และคนอื่นรู้จะได้ยังไง ในเมื่อยังทำไม่ถึง นอกจากได้แค่กางตำรา

...ข้อที่ ๒ พระอรหันต์ในพุทธกาล โดยเฉพาะใน "อปทาน" ท่านได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ท่านได้ถึงไหนแล้ว ไม่เห็นท่านกลัวอวดอุตริ ดังนี้


"...ข้าพระองค์ตัดกิเลสเครื่องผูก ดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ ข้าพระองค์เผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว ตัดกิเลสเครื่องผูก ดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่

การที่ข้าพระองค์ได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าของข้าพระองค์นี้ เป็นการมาดีแล้วหนอ วิชชา ๓ ข้าพระองค์บรรลุแล้วโดยลำดับ

พระพุทธศาสนา ข้าพระองค์ได้ทำเสร็จแล้ว คุณวิเศษเหล่านี้ คือปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพระองค์ได้ทำให้แจ้งแล้ว พระพุทธศาสนาข้าพระองค์ได้ทำเสร็จแล้ว..." ดังนี้


อ้างอิง - https://th.wikisource.org/wiki/พุทธวงศ์-จริยาปิฎก_-_เถราปทาน

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

◄ll กลับสู่ด้านบน



[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 16/8/18 at 06:25 [ QUOTE ]


(ตอนที่ ๒)

พระอรหันต์คือใคร ?
เราสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าใครเป็นพระอรหันต์ ?


...บทความยังมีต่ออีกว่า..การมีภิกษุรูปใดคิดวิธีการสอนหรือวิธีปฏิบัติขึ้นมาใหม่ และบอกว่าเป็นทางลัดสู่นิพพาน ให้พวกเราชาวพุทธเพ่งพินิจไว้ว่า

‘...มีเพียงตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะเท่านั้น ที่ค้นพบธรรมและเริ่มบอกสอน’

การมีผู้ใดมาบอกว่า ‘ตนมีวิธีที่ดีกว่า’ ให้คิดไว้เสมอว่า ‘เขาผู้นั้นเป็นเพียงภิกษุผู้(ควร)เดินตาม เขาไม่ใช่ผู้ตรัสรู้ ผู้ที่ตรัสรู้มีเพียงผู้เดียว คือพระพุทธเจ้า’

- อรหันต์สำคัญผิด
...ผู้ใดแลไม่เป็นพระอรหันต์ แต่ปฏิญาณว่าเป็นพระอรหันต์ ผู้นั้นแลเป็นคนถ่อยต่ำช้า เป็นโจรในโลกพร้อมทั้งพรหมโลก คนเหล่าใด เราประกาศแก่ท่านแล้วคนเหล่านั้นนั่นแล เรากล่าวว่าเป็นคนถ่อย ฯ

- พระไตรปิฎกฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย น.๒๖๙ ข.๓๐๕


...บทความตอนที่ ๒ นี้ ได้คัดลอกออกมาจากผู้ที่นำมาแชร์ต่อกัน จากบทความด้านบน เป็นทำนองว่าไม่เห็นด้วย กับพระที่สอนลัดไปนิพพาน และผู้ที่สำคัญผิดคิดว่าเป็นพระอรหันต์ พร้อมอ้างหลักฐานจากพระไตรปิฎกด้วยเป็นสำคัญ

...ขอตอบตามบทความข้างบน ถึงแม้ไม่ระบุว่าเป็นใครหรือวัดไหนก็ตาม แต่อยากจะขอออกความเห็นบ้างว่า

..เรื่องนี้คงจะเห็นด้วยเป็นแน่ เพราะการสอนลัดหรือสอนขึ้นมาใหม่ไม่ถูกต้อง ควรดำเนินไปตามอริยมรรคมีองค์ ๘ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งตรงกับทางวัดท่าซุงสอนทุกประการ

โดยเฉพาะการสอนวิชามโนมยิทธิ ไม่ใช่เป็นของใหม่ แต่มีอยู่ในพระไตรปิฎก คือ พระจุฬปันถก เป็นต้น

การฝึกก็ต้องมีพื้นฐานของศีล สมาธิ ปัญญา อยู่ดีๆ คนไม่มีศีลจะเข้าวัดปฏิบัติธรรมได้อย่างไร คนไม่โง่เสียอย่างเขาก็ฝึกกันได้

ประการสำคัญ ทางวัดไม่ได้สอนหลักสูตรแค่นี้ ยังมีการสอน "สังโยขน์ ๑๐" ตามที่บทความนี้อ้างถึงอีกด้วย

ส่วนเรื่องการสำคัญผิดคิดว่าเป็นอรหันต์หรือไม่นั้น ดูๆ แล้วก็ไม่เห็นมีใครประกาศ นอกจากเป็นความเข้าใจของบุคคลอื่นต่างหาก

เพราะหลักสูตรคำสอนของวัดท่าซุง ก็ตรงตามพระไตรปิฎกทุกประการ โดยมีการสอนอารมณ์ของพระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันถึงพระอรหันต์

โดยเฉพาะการสอนตามหลัก "แว่นธรรม" ในพระไตรปิฎก ไม่ถือว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะพระพุทธเจ้าสอน "พระอานนท์" ให้พึงพยากรณ์ตนเองได้ ดังนี้


"...อานนท์ หลักธรรมที่ชื่อว่า "แว่นธรรม" เป็นเครื่องมือให้อริยสาวกมีไว้ เมื่อประสงค์ก็จะพึงพยากรณ์ตนได้ด้วยตนเองว่า

‘...เราหมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในอบาย ทุคติ และวินิบาตแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน ไม่มีทางตกต่ำ มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า..‘ ฯลฯ

อ่านรายละเอียด - http://pratripitaka.com/10-039/



(โปรดติดตามตอนต่อไป)

◄ll กลับสู่ด้านบน



[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 16/8/18 at 06:30 [ QUOTE ]


(ตอนที่ ๓)

พระอรหันต์คือใคร ?
เราสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าใครเป็นพระอรหันต์ ?


...หัวข้อจากบทความนี้ ท่านผู้รู้ได้เขียนไว้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดความเข้าใจในคำสอน อันเป็นพระพุทธวจนะที่แท้จริง และในบทความนี้ยังได้แทรกความเห็นไว้ดังนี้อีกว่า...

"...พระศาสดาไม่เคยตรัสว่า ‘พ่อแม่เป็นอรหันต์ในบ้าน’ เป็นเพียงคำพูดติดปากของชาวพุทธ(ในไทย)

- ภิกษุผู้ที่ยังไม่บรรลุธรรม แม้มีศีลสมบูรณ์ ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเพียงสมมุติสงฆ์

- พระศาสดาตรัสว่าไม่มีอริยบุคคลนอกพระศาสนา ฉะนั้น การทำเดรัจฉานวิชา(พิธีกรรมนอกศาสนา) จึงไม่อาจจะทำให้สามารถบรรลุธรรมได้ อีกทั้งยังกลายเป็นภิกษุทุศีล (เลี้ยงชีพผิด) และยังมีความสงสัยลังเลในพระพุทธและพระธรรม (รู้ว่าพระพุทธเจ้าห้ามแต่ก็ยังทำ)

- พระสูตรที่เพจอ้างอิงทั้งหมด
- ล้วนมาจากการสังคยนาของพระภิกษุสงฆ์ที่ตกลงปลงใจกันว่าจะไม่เพิกถอนและแต่งเติมคำสอนพระศาสดา
- เป็นการท่องจำคำสอนพระพุทธเจ้าจากปากสู่ปาก
- เป็นข้อมูลที่พิสูจน์แล้วว่าเก่าแก่ที่สุด

- ใกล้เคียงกับยุคพุทธกาลมากที่สุด จึงมีความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด ฉะนั้น การจะไม่เชื่อข้อมูลที่เก่าแก่ที่สุด แล้วบอกว่า ‘อย่าอ้างแต่ตำรา’ แต่ไปปักใจเชื่อพระสูตรที่เขียนขึ้นลอยๆใน พ.ศ.900 โดยไม่ผ่านการท่องจำคำศาสดาจากปากสู่ปาก (เหตุการณ์ทำน้ำมนต์) จึงเป็นเรื่องที่น่าขบขัน..."


...เป็นอันว่า ตอนที่ ๓ คงต้องขอจบที่บทความสุดท้ายนี้ จากคำที่บอกว่า "...แต่ไปปักใจเชื่อพระสูตรที่เขียนขึ้นลอยๆใน พ.ศ.900.."
.
...ตามความเข้าใจคิดว่า ท่านผู้เขียนบทความนี้ คงหมายถึง "วิสุทธิมรรค" ตามที่ "พระพุทธโฆษาจารย์" ชาวมอญ เดินทางไปแปลพระไตรปิฎกจากลังกาทวีป จากภาษาสิงหฬมาเป็นภาษามคธ (บาลี)
.
...ซึ่งนำมาใช้เป็นหลักสูตรการเรียนบาลีของพระสงฆ์ไทย แต่บางท่านเรียนไปเรียนมา กลับหาว่าเป็นพระสูตรที่เขียนขึ้นลอยๆ ใน พ.ศ.900 แล้วบทความนี้ยังบอกอีกว่า

...โดยไม่ผ่านการท่องคำคำศาสดา จากปากสู่ปาก (เหตุการณ์ทำน้ำมนต์) จึงเป็นเรื่องที่น่าขบขัน
.
ผู้เขียนบทความนี้ คงหมายถึงมีความเชื่อเฉพาะ "พระไตรปิฎก" ที่ถ่ายทอดโดย "มุขปาฐะ" คือจากปากสู่ปาก แต่ไม่เชื่อพระไตรปิฎกฉบับที่จารลงในใบลาน ว่างั้นนะ

ทั้งที่พระพุทธโฆษาจารย์มีความสามารถแปลพระไตรปิฎกได้ ท่านคงเห็นว่ายากแก่การปฏิบัติ จึงเขียน "วิสุทธิมรรค" จากพระไตรปิฎก เพื่อการปฏิบัติได้ง่ายขึ้น
.
...ส่วนที่กล่าวว่า ...พระศาสดาไม่เคยตรัสว่า ‘พ่อแม่เป็นอรหันต์ในบ้าน’ เป็นเพียงคำพูดติดปากของชาวพุทธ(ในไทย)

...อ่านบทความนี้แล้วก็คงเหนื่อยนะ...แล้วจะเปรียบเทียบพ่อแม่ว่าเป็น...อะไรในบ้านดีล่ะ ถึงจะถูกต้องตามคำพระศาสดา ?
.
โปรดแชร์เป็นธรรมทาน ดังพุทธพจน์ที่ว่า
ทานานํ ยทิทํ ธมฺมทานํ เอตทคฺคํ
ธรรมทานเลิศกว่าทานทั้งหลาย
.
...บทความทั้งหมดนี้ จบลงด้วยการเชิญชวนให้แชร์เป็นธรรมทาน แอดมินจึงใคร่ขอเชิญชวนให้นำบทความทั้ง ๓ ตอนนี้ไปแชร์เป็นธรรมทานด้วยเหมือนกันนะ
.
...เพราะคำพูดว่า "ใครเป็นพระอรหันต์หรือไม่" บุคคลนั้นท่านไม่ได้กล่าวถึงตนเอง มีแต่ท่านผู้อื่นกล่าวไว้ดังนี้


@ อ้างอิง : https://pantip.com/topic/35226656

- ท่านเจ้าประคุณหลวงพ่อ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
(ฟื้น ชุตินธโรมหาเถระ) วัดสามพระยา ปรารภกับท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ อดีตเจ้าอาวาส วัดท่าซุงว่า

" คำสอนของท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน ใช้เป็นตำราได้ทั้งหมดนะ "
.
- หลวงปู่ดู่ กล่าวถึง หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
"...ท่านมหาวีระ ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน เป็นอาจารย์ใหญ่สอน คนได้จำนวนมาก ข้าขอโมทนา พวกแกเกิดมาพบพระอรหันต์ ที่มีบารมีสูง อย่าให้เสียทีที่ได้พบ เอาสิ่งที่ตนปฏิบัติได้(ญาณ) มาอบรมตนเอง"
.
- หลวงพ้อดาบส สุมโณ จ.เชียงราย พูดถึงหลวงพ่อว่า
"...พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลก ในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ

ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันตสาวกเสียก่อน ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา ก็จะฟังเทศน์จากท่านเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นพระอรหันต์ตามได้

จำไว้นะ ! กลับไปฟังคำสอนของพระคุณท่าน ฟังเทปของท่าน ดูวีดีโอของท่าน ให้ส่งจิตคิดตามเสียงท่านประหนึ่งว่าเป็นเสียงในใจเรา ก็อาจจะบรรลุมรรคผลได้ตามที่ตัดสินใจ ตามเสียงนั้นเฉพาะหน้า เหมือนฟังจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ องค์นี้หาใครสอนได้เสมือนท่านยากนักหนาแล้ว"
.
- หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง บอกว่า
"หลวงพ่อมหาวีระ ท่านเป็นโลกวิทู แจ้งทั้งโลก แจ้งทั้งธรรม"

- หลวงปู่บุดดา ถาวโร ยังปรารภถึงหลวงพ่อว่า
" หลวงปู่น่ะเหมือนหิ่งห้อย หลวงพ่อมหาวีระนั้นเหมือนพระอาทิตย์"
.
- หลวงปู่คำแสนเล็ก วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่ ท่านบอกว่า
“หลวงปู่ บวชมา 60 กว่าพรรษาเข้านี่แล้ว ยังไม่เคยพบพระองค์ไหนเหมือนหลวงพ่อวัดท่าซุง ”
.
- หลวงปู่ชุ่มบอกว่า
“พระเดชพระคุณหลวงพ่อวีระ วัดท่าซุงนี่ท่านเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมอันสูงมาก บารมีสูง ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของท่าน ท่านจะไม่มาอีกแล้ว จะเข้าสู่พระนิพพาน

เพราะฉะนั้นท่านจึงสั่งสอนให้ลูกหลานและศิษย์ท่านปฏิบัติให้เข้าถึงพระนิพพานกันหมด”


◄ll กลับสู่ด้านบน



[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 14/8/21 at 09:34 [ QUOTE ]


.

[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top