Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 29/6/08 at 19:00 [ QUOTE ]

พระราชานุสาวรีย์รัชกาลต่างๆ






พระราชานุเสาววรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑


(อยู่หน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร) ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕ เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร มูลค่าทั้งหมด ๔๐,๐๐๐ บาท

พระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕


(อยู่หน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร) ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕ เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร มูลค่าทั้งหมด ๔๐,๐๐๐ บาท

พระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖


(อยู่หน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร) ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร มูลค่าทั้งหมด ๔๐,๐๐๐ บาท

พระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗


(อยู่หน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร) ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร มูลค่าทั้งหมด ๔๐,๐๐๐ บาท

ป้ายจารึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙


(อยู่หน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร) ซุ้ม ๒ เสา เฉพาะเสาสูง ๔ เมตร มีป้ายและพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว( เหมือนกันทั้ง ๒ ด้าน) มีปิดกระจกทั้ง ๒ ด้าน ขนาดของป้ายยาว ๗.๙ เมตร กว้าง ๔ เมตร มูลค่าทั้งหมด ๑๐๐,๐๐๐ บาท


พระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


(อยู่หน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร) ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕ เมตร กว้าง๒.๒๕
เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร มูลค่าทั้งหมด ๔๐,๐๐๐ บาท

พระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ทรงผนวช)


(อยู่หน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร) ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ นุ่งห่มจีวรบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา บัลลังก์ขนาดสูง ๒.๖๕ เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร มูลค่าทั้งหมด ๔๐,๐๐๐ บาท



ในที่นี้จะกล่าวถึงประวัติการสร้างขององค์ต่างๆดังนี้ โดยผ่านการสนทนาระหว่าง "จุไร" กับ "ป้าน้อย" (จากหนังสือจุไรท่องดวงดาว)

หลังจาก ๒ ป้าหลานเดินเที่ยววัดท่าซุงกันได้สักระยะะหนึ่งแล้ว บังเอิญจุไรได้หันไปเห็น พระบรมรูปรัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๖ และป้ายรัชกาลที่ ๙ ที่กำลังยืนคุยกันอยู่นี้เป็นหน้ามณฑปด้านทิศตะวันออกแล้วก็มาหน้ามณฑปด้านทิศตะวันตก ก็มีรูปปั้นพระเจ้าตากสินมหาราช

จุไรก็ถามป้าว่า คุณป้าเจ้าคะ หลวงปู่ป่านทำไมทำไม พระราชาในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมัยรัตนโกสินทร์มีตั้ง ๙ รัชกาล แต่ว่าหลวงปู่ก็ทำรัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๙ แต่ไม่ครบ คือรัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๙ แล้วต่อไปด้านโน้นก็มีพระเจ้าตากสินฯ ป้าน้อยก็บอกว่า หลานรักพระมหากษัตริย์ทุกองค์ของประเทศไทย เป็นผู้มีพระคุณใหญ่กับคนไทย ทุกองค์ แต่สำหรับที่หลวงปู่ปั้นขึ้นมานี่ก็อาศัยว่า

รัชกาลที่ ๑ วันจักรี เขาทำบุญกันเขามานมัสการท่าน ถวายเความเคารพ
วันปิยะมหาราช เขาก็ถวายความเคารพ รัชกาลที่ ๕
วันลูกเสือ เขาก็ถวายความเคารพ รัชกาลที่ ๖
วันเฉลิมพระชนพรรษา ก็คือวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปีเขาก็ถวายความเคารพรัชกาลที่ ๙
วันตากสินมหาราช เขาก็ถวายความเคารพพระเจ้าตากสินมหาราช

เขาก็ทำไว้เฉพาะเท่านี้ เพราะสถานที่มีจำกัด แล้วจุไรก็ถามว่าให้ช่างเขาปั้น หรือว่าให้ช่างเขาหล่อ คุณป้าน้อยก็บอก ทราบจากหลวงปู่บอกว่าท่านให้ปั้นท่านไม่ต้องการให้หล่อเพราะอะไร เพราะสตางค์ท่านไม่มี ท่านจะบอกบุญใครเขาก็เกรงใจญาติโยมพุทธบริษัท เพราะงานของวัดที่สร้างอย่างอื่นมีมาก ที่คั่งค้างก็เยอะ ถ้าไปบอกบุญเข้าก็เกรงว่าจะเป็นการกวนใจ

จุไรก็ถามว่า ถ้าอย่างนั้นหลวงปู่ท่านมีสตางค์อยู่ส่วนหนึ่ง เป็นส่วนของท่านเอง เป็นเงินตั้งแต่ก่อนบวช เพราะญาติผู้ใหญ่ให้ไว้ โยมให้ไว้ คำว่าโยมเป็นโยมผู้หญิง จุไรก็ถามว่าโยมผู้หญิงหมายถึงอะไร คุณป้าเจ้าคะ คุณป้าก็บอกว่าหลานไม่ทราบหรือ โยมก็คือแม่ จุไรก็ถามว่าโยมของหลวงปู่มีกี่องค์

ป้าน้อยก็บอกว่า โยมแม่ของหลวงปู่ที่ให้สตางค์มี ๔ องค์ จุไรก็ถามว่าถ้าอย่างนั้นคุณพ่อของหลวงปู่มีเมีย ๔ คนใช่ไหม ป้าน้อยบอกว่าไม่ใช่ คุณพ่อของหลวงปู่มีเมียคนเดียว ก็ถามว่า ทำไมถึงมีแม่ตั้ง ๔ องค์ ป้าน้อยก็เลยบอกว่า เรื่องมันเป็นอย่างนี้...

เมื่อสมัยที่หลวงปู่ยังมีอายุน้อยๆ อยู่ท่านก็ปฏิบัติตนเป็นคนไม่กินเหล้าเมายา ไม่เล่นการพนัน เอาเท่านี้ก็แล้วกัน แล้วการงานก็ขยันพอสมควร งานไม่คั่งค้าง แล้วก็ไม่ชอบเที่ยวเตร่ ก็เลยเป็นที่รักของคนแก่ ท่านผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งหลายเหล่านั้นก็มีความรู้สึกรักท่านเหมือนลูก ก็เลยขอให้ท่านเป็นลูก คนนั้นก็เป็นแม่ คนนี้ก็เป็นแม่

ทีนี้พอท่านทั้งหลายตายลงไป ปรากฏว่า พินัยกรรมตกท่านแต่เพียงผู้เดียวทั้งหมด ไม่ได้ระบุให้คนอื่นๆ เป็นแต่เพียงว่าให้ผู้นี้มีสิทธิ์ในพินัยกรรม แต่ท่านเองท่านก็ไม่รับทรัพย์สินทั้งหมดไว้ ขอให้พระผู้ใหญ่ เช่นสมเด็จพุฒาจารย์ วัดอนงค์ เป็นต้น เป็นผู้จัดการให้....

[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top