Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 30/6/08 at 20:57 [ QUOTE ]

การเดินทางไปวัดท่าซุง (ช่วงสงกรานต์ ตาม GPS ไม่ควรข้ามแพที่ อ.มโนรมย์)


(Update 12 เมษายน 2561)


วิธีการเดินทาง
รถส่วนตัว

1. กรุงเทพฯ - ชัยนาท - วัดสิงห์ - วัดท่าซุง

จากกรุงเทพ ขับมาตามถนนสายเอเซีย ทางหลวงหมายเลข 32 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าชัยนาท ประมาณ 10 กม. ถึงสี่แยกไฟแดง ให้เลี้ยวขวาผ่าน รพ.ชัยนาท

วิงตรงไปประมาณไม่เกิน 10 กม. เลี้ยวซ้ายไปทางสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านวัดธรรมามูล แล้วขับรถตรงไปทางวัดปากคลองมะขามเฒ่า ผ่านสามแยกวัดสิงห์ แล้วเลี้ยวขวาไปทางวัดท่าซุงอีกประมาณ 12 กม.


2. กรุงเทพฯ - มโนรมย์ - วัดท่าซุง

จากกรุงเทพ ขับมาตามถนนสายเอเซีย ทางหลวงหมายเลข 32 จนสี่แยกหางน้ำสาคร จังหวัดชัยนาท แล้วเลี้ยวซ้ายไป อ.มโนรมย์ สุดถนน 3212 เป็นแม่น้ำสะแกกรัง ให้เอารถขึ้นแพข้ามฟากไปฝั่งอุทัยธานี และขับต่อขึ้นไปตามถนน 3265 ประมาณ 4 - 5 ก.ม. ก็จะถึงบริเวณวัด

หมายเหตุ ช่วงเทศกาลไม่ควรข้ามแพ เพราะต้องรอนานเป็นชั่วโมง เนื่องจากแพมีแพเดียวเท่านั้น และกำลังก่อสร้างสะพานด้วย





3. กรุงเทพฯ - ท่าน้ำอ้อย - วัดท่าซุง

ส่วนรถบัสควรไปข้ามสะพานที่ ท่าน้ำอ้อย ตามทางหลวงหมายเลข 333 ระยะทางประมาณ 16 ก.ม. ผ่านไอยราปาร์ครีสอร์ท ผ่าน รพ.อุทัยธานี เลี้ยวไปทางมโนรมย์อีกประมาณ 6 ก.ม. ก็จะถึงวัดท่าซุง


นั่งรถโดยสาร
นั่งรถตู้ไปอุทัยธานี (จอดที่ใต้ทางด่วนอนุสาวรีย์ มุมตะวันออกเฉียงเหนือของอนุสาวรีย์ คนละ180 บ. ใช้เวลา 3 ชม. วันงานคนมาก) ถึงตลาดบขส.อุทัย ให้ขึ้นรถสองแถวที่เขียนว่า ท่าซุง - มโนรมย์ ราคา 8 บาท (รถหมดประมาณบ่าย 2 โมง) หรือเหมารถสามล้อ นั่งได้ 2 คน ในราคาประมาณ 70 บาท.

โทรศัพท์ (พระเจ้าหน้าที่ศาลานวราช ที่เป็นผู้รับสาย) (056) 502 - 655



การปฏิบัติธรรมที่วัด

ตามปกติ ถ้าเป็นช่วงวันธรรมดา ที่วัดไม่ได้มีจัด งานสำคัญ ท่านสามารถมาพักที่วัดได้โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้

- พักครั้งละไม่เกิน 7 วัน (ในพรรษาจะมีพิเศษให้พักปฏิบัติธรรม 3 เดือน มีโรงครัวด้วย)
- การมาพักต้องติอต่อพระเจ้าหน้าที่ ที่ศาลานวราช (อยู่บริเวณโบสถ์ ติดกับหอนาฬิกา)
- ต้องมีบัตรประชาชนหรือใบขับขี่เป็นหลักฐาน
- หากเป็นพระต้องมีใบสุทธิ และ หนังสือรับรองจากเจ้าอาวาสที่ท่านสังกัดมาแสดงโดยทางวัด
- พระเจ้าหน้าที่จะขอเก็บไว้ 1 บัตรหรือใบต่อ 1 ห้องพักเพื่อแลกกับกุญแจ (และไว้มาแลกคืนตอนกลับ)
- ต้องมาติดต่อพระเจ้าหน้าที่ (ไม่ว่าจะขอกุญแจหรือคืนกุญแจ) ต้องติดต่อในช่วงต่อไปนี้เท่านั้นคือ

ช่วงเช้า 9.00 น.ถึง 10.30 น. ช่วงบ่าย 13.00 น.ถึง 16.00 น
(หากติดต่อนอกเวลา จะไม่อนุญาตให้พักในวัด รับเฉพาะผู้มาปฏิบัติธรรมเท่านั้น)

- ที่พักมีพักเป็นห้องๆ หลายจุดในวัด แยกชายหญิง
- เตรียมเสื้อผ้าที่สุภาพมาให้เพียงพอ
- ทางวัดมีห้องน้ำไว้บริการเพียงพอ
- เรื่องอาหารการกินผู้มาปฏิบัติต้องรับผิดชอบตนเอง โดยมีร้านอาหารอยู่หน้าวัด
- ภายในวัด มีร้านสหกรณ์ของวัดจำหน่ายของใช้ของจำเป็นทุกอย่าง
- มีการทำวัตรเช้า เวลา 08.30 น. ที่ศาลานวราช ทำวัตรเย็น เวลา 17.00 น. ที่วิหาร 100 เมตร
- ในวัดมีมีรถบัสที่ดัดแปลงเป็นรถนั้ง 2 แถวหรือไม่ก็มีรถสามล้อเครื่องให้ใช้บริการตามสะดวก
- ห้ามดื่มเหล้าและเล่นการพนันรวมทั้งอบายมุขทุกอย่าง
-ท่านต้องเคารพในสถานที่และทำตาม "ระเบียบ" ของวัดท่าซุงที่ติดไว้หน้าห้องอย่างเคร่งครัด

การเจริญกรรมฐานและการฝึกมโนมยิทธิ ท่านสามารถฝึกกรรมฐานแบบมโนมยิทธิ ได้ทุกวันในเวลา 11.30 - 14.00 น. และทำวัตรเย็นเจริญพระกรรมฐานแบบปกติ ในเวลา 17.00 น. ที่มหาวิหารแก้ว 100 เมตร

ประสงค์ทำบุญกับวัด
หากท่านไม่สะดวกไปวัดท่าซุง หรือบ้านสายลม (ที่กรุงเทพฯ) ท่านสามารถร่วมทำบุญโดยการ Online ทางธนาคารก่อน แล้วเข้าไปกรอกแบบฟอร์มแจ้ง.. คลิกที่นี่ ll► หรือจะส่งธนานัติหรือตั๋วแลกเงิน สั่งจ่าย ปท.อุทัยธานี ในนาม พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ วัดท่าซุง อำเภอเมือง อุทัยธานี 61000 พร้อมระบุว่าประสงค์จะทำบุญอะไร

นำเที่ยววัดท่าซุง
มหาวิหารแก้ว 100 เมตร เป็นตึก ๒ ชั้น หลังคาเป็นจตุรมุข ๓ ยอด ด้านนอกด้านใน ปิดกระจกจากชั้น ๒ ถึงยอดหลังคา ภายในปิดกระจกเสาทุกต้น ข้างฝาและเพดานทั้งวิหาร มีพระประธานแบบพระพุทธชินราช

มี รูปปั้นพระอรหันต์ ๗ องค์ มีรูปหล่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อลักษณะยืนถือไม้เท้า เพดานวิหารมีช่อไฟระย้าทั้งช่อใหญ่ ่และช่อเล็กรวมทั้งหมด ๑๑๙ ช่อ และมีบุษบกตั้งศพพระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ตั้งอยู่ภายในมหาวิหารนี้ด้วย

เวลาเปิดมหาวิหาร ๑๐๐ เมตร คือ ระหว่าง 9:00 - 11: 30 น. และ 14:00 - 16:00 น. เท่านั้น โดยช่วง 11.30 - 14.00 น.จะอนุญาตเฉพาะคนที่เข้ามาเจริญพระกรรมฐานเท่านั้น

พระวิหารสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๔ ศอก เป็นพระหล่อด้วยโลหะผสมทองคำ หนัก 87 ก.ก. ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของ "สมเด็จองค์ปฐม" วิหารทั้งหมดบุแก้วทั้งข้างนอกข้างในสวยงามมาก

เวลาเปิด เช้า 09.00 - 10.30 น. และบ่าย 13.00 - 16.00 น.
(วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ เปิดตลอดเวลา 09.00 - 16.00 น.)

ปราสาททองคำ เวลาเปิดตลอดเวลา 08.00 - 16.00 น.

มณฑปพระศรีอาริยเมตไตรย์ เวลาเปิด เช้า 09.00 - 10.30 น. และบ่าย 13.00 - 16.00 น.
(วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ เปิดตลอดเวลา 09.00 - 16.00 น.)

พระยืน 30 ศอก, เจดีย์พุดตาล เปิดตลอดเวลา 08.00 - 16.00 น.



บ้านสายลม กรุงเทพฯ


บ้านสายลม เจ้าของบ้านคือ ท่านเจ้ากรมเสริม สุขสวัสดิ์ เป็นสถานที่ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อจะลงมารับสังฆทานที่บ้านสายลมทุกเสาร์อาทิตย์ต้นเดือน

และจะมีการฝึกมโนมยิทธิในวันเสาร์อาทิตย์ทุกต้นเดือนด้วย ปัจจุบันพระครูปลัดอนันต์ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดท่าซุง ได้เดินทางมาที่บ้านสายลมเหมือนสมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ทุกเสาร์อาทิตย์ต้นเดือนเช่นเดิม

ปัจจุบัน บ้านสายลมได้สร้างตึกกรรมฐานใหม่ 3 ชั้น โดย

- ชั้น 1 จำหน่ายวัตถุมงคล หนังสือ - ซีดี - วีซีดี นิตยสารธัมมวิโมกข์ (เปิดทุกวันเว้นวันอาทิตย์ 9.00-17.00 น. บ้านสายลมหลังเก่าไม่มีจำหน่ายวัตถุมงคลแล้ว กรุณาไปที่ตึกกรรมฐานใหม่ที่เดียวในวันธรรมดา แต่ลูกแก้วและวัตถุที่สำคัญ จะมีจำหน่ายเฉพาะที่ท่านเจ้าอาวาสมาสายลมเท่านั้น)

- ชั้น 2 เป็นห้องฝึกญาน 8

- ชั้น 3 เป็นห้องไว้ฝึกมโนมยิทธิสำหรับผู้มาฝึกใหม่ จำนวนหลายห้อง

ตึกกรรมฐานใหม่

วิธีการเดินทาง+แผนที่


ดูแผนที่บ้านสายลม
  
ที่อยู่บ้านสายลม : เลขที่ 9 ซอยสายลม 1 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400

ขับรถ วิ่งถนนพหลโยธิน เข้าซอยสายลม (พหลฯ ซ.8) ตรงเข้ามาเมื่อตรงผ่านกรมไปรษณีย์โทรเลขมาแล้ว ถนนจะบังคับเลี้ยวขวา แล้วให้ตรงมาเรื่อยๆ (ไม่ต้องเลี้ยวซ้ายตามทางหลักอีก)

ตรงเข้ามาอีกเล็กน้อยจะมีแยกซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าซ้ายนั้นแล้วหาที่จอดรถ (อย่าจอดรถขวางประตูบ้านคนอื่นหรือกีดขวางการจราจร) ซึ่งบ้านสายลมจะอยู่ห่างจากแยกทางซ้ายเพียงประมาณ 50 เมตร จะเห็นอาคารกรรมฐานใหญ่ชัดเจน (หมายเหตุ. มีเส้นทางอื่นๆ ก็เข้ามาได้ เช่นเข้าจากสุทธิสารทาง ถ.วิภาวดีรังสิต )

ดูภาพถ่ายบ้านสายลมจากดาวเทียม

หรือนั่งรถเมล์ สาย 8, 26, 29, 34, 39, 59, 77 ปอ. 3, ปอ.9, ปอ.10, ปอ. 29 และ ปอ.77 ลงซอยพหลโยธิน ซ.8 (ซอยสายลม 1) แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างบอกว่า มาบ้านหลวงพ่อ(บ้านสายลม บ้านเจ้ากรมเสริม ) คิดราคา 5-10 บาท หรือเดินเข้ามาเองก็ได้ประมาณ 10 นาที

รถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานี อารีย์ แล้วลงฝั่งตึก IBM แล้วเดินมาปากซอยพหลโยธิน ซ.8 (ซอยสายลม 1)
โทรศัพท์
(ล่าสุด 17 กพ. 49)
(02) 616 - 7177 (เฉพาะวันจันทร์ - เสาร์ เวลาราชการ เบอร์นี้คือเบอร์ของอาคารกรรมฐานตึกใหม่)

(02) 272 - 6759 เป็นระบบตอบอัตโนมัติแจ้งกำหนดการของคณะพระครูปลัดฯ ที่จะเดินทางมาบ้านสายลมครั้งต่อไป
การรับสังฆทาน
คณะพระสงฆ์วัดท่าซุง จะมาพักที่บ้านสายลมของเสาร์อาทิตย์แรกของแต่ละเดือน

(ดูวันรับสังฆทาน ณ บ้านสายลม จากกำหนดการวัดท่าซุง)

กำหนดการรับสังฆทานของบ้านสายลม คือ

วันเสาร์-อาทิตย์ 9.00-11.00,12.00-15.30,20.00-21.00

วันจันทร์ 10.00-11.00,12.00-15.30,20.00-21.00
การฝึกมโนมยิทธิ  
เวลาฝึก 12.00 - 15.00 น. ของทุกเสาร์อาทิตย์ต้นเดือน (ดูวันฝึกจากกำหนดการวัดท่าซุง)

การเตรียมตัว

ท่านที่จะมาฝึก ควรจะมาถึงที่บ้านสายลมอย่างน้อยตั้งแต่ 11 น. เพื่อทานอาหาร ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เมื่อพร้อมให้ไปที่ตึกกรรมฐานใหม่ โดยตรงทางขึ้นบันไดให้หยิบดอกไม้ธูปเทียนบูชาครู ใส่เงินเหรียญบูชาครู สลึงนึงขึ้นไป แล้วแต่ศรัทธาของท่าน

และเดินขึ้นไปชั้นสาม จะมีครูผู้สอนคอยจัดกลุ่มให้นั่งเป็นวงๆ ตามที่ครูเห็นเหมาะสม จะมีแบ่งวงชายและหญิง นั่งทำใจให้สงบ หรือซ้อมภาวนา นะมะพะธะ ไปสบายๆ ลืมเรื่องวุ่นวายปัญหาส่วนตัวไปซักชั่วโมง รอครูผู้สอนให้คำแนะนำและอธิบายขั้นตอนต่างๆ อย่ามาสายเกิน 12.00 น. เพราะจะไม่อนุญาตให้เข้ามาฝึก ประตูห้องฝึกจะล็อค



[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 26/6/09 at 05:58 [ QUOTE ]


(Update 26/06/52)

แผนที่การเดินทางไปจังหวัดอุทัยธานี




ทางรถยนต์


1. จากถนนพหลโยธินผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี อำเภอตาคลี จังหวัดนคร-สวรรค์ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาลง แพขนานยนต์ที่อำเภอมโนรมย์ ผ่านวัดท่าซุง(วัดจันทาราม) ศาลากลางจังหวัด เข้าตลาดอุทัยธานี รวมระยะทาง 305 กิโลเมตร

2. จากถนนสาย 32 ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกท่าน้ำอ้อยบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 206 ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาตามถนนสาย 333 ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตรผ่านหน้าโรงพยาบาล เลี้ยวซ้ายเข้าตลาดอุทัยธานี รวมเป็นระยะทางประมาณ 222 กิโลเมตร

3. จากถนนสาย 32 ผ่านจังหวัดอยุธยา เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานอ่างทอง มาตามถนนสายในผ่านจังหวัดสิงห์บุรี อำเภอสรรพยา เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอวัดสิงห์ ผ่านวัดท่าซุง ศาลากลางจังหวัด เข้าตลาดอุทัยธานีรวมเป็นระยะทาง 283 กิโลเมตร


ถนนจะผ่าน อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท แล้วก็มาถึงอุทัยธานีกัน
ระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 222 กม.



พอเลยป้ายต้อนรับเข้าอุทัยธานีมาได้หน่อยเดียว ก็เตรียมตัวเลี้ยวซ้าย
แยกเข้ามาที่เมืองอุทัยตามทางหลวงหมายเลข 333 ได้เลย
(ระยะทาง 16 ก.ม.)



เลี้ยวซ้ายเข้ามาแล้ว ทางจะพาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ
ลงมาสักพักตรงราว หลัก กม. 9 จะเป็นทางแยกเข้าเกาะเทโพ

ยังไม่ต้องเลี้ยวเข้าไป เพียงแต่เล่าไว้สำหรับใครที่จะมาพักที่พักในเกาะเทโพ
จะเข้าทางนี้ก็ได้ แล้วเลยเข้าไปแถวในตัวเมืองยังมีทางข้ามเข้าเกาะอีกแห่งหนึ่งด้วย



วิ่งตรงตามถนนเข้าเมืองมาจนสุดทาง ก็จะเจอสามแยก
ให้เลือกเลี้ยวซ้ายกับเลี้ยวขวา มีทิวเขาเป็นฉากหลังอย่างนี้



เลยมาไม่ไกลจะมาเจอสามแยก มีป้ายแหล่งท่องเที่ยวที่ชี้บอกทางไปวัดท่าซุงเอาไว้ด้วย ก็เลี้ยวซ้ายเข้ามาตามทางหลวงสาย 3265

(สังเกตนิดว่า ก่อนจะถึงแยกนี้จะมีแยกซ้ายอยู่ เป็นถนนที่วิ่งเข้าไปย่านตัวตลาด เพราะงั้นก่อนจะเลี้ยวให้มองหาว่าเป็นถนนที่มีป้ายหมายเลขทางหลวงบอกว่าเป็นสาย 3265 ติดอยู่ด้วย)



พอถึงแยกไฟแดงถัดมาก็เลี้ยวขวาตามป้าย "มโนรมย์" ไปเลย ที่จริงถ้าขับรถมาเที่ยวเอง จะมีป้ายบอกทางไปวัดท่าซุงอยู่เป็นระยะ คอยมองป้ายไว้แล้วขับตามป้ายไปก็ใช้ได้

เล่าเพิ่มไว้นิดว่า ตรงแยกนี้ถ้าตรงต่อไปจะไปข้าม สะพานพัฒนาภาคเหนือ เข้าไปที่เกาะเทโพ ใครที่จะไปที่พักอย่าง พญาไม้รีสอร์ท อุทัยริเวอร์เลค หรือ ริเวอร์มาริน่ารีสอร์ท หรือย่านร้านอาหารริมแม่น้ำในเกาะเทโพ ก็ให้ตรงข้ามสะพานเข้าไปเลย



เลี้ยวขวาตรงแยกตะกี้มาแล้ว ก็ไม่ต้องเลี้ยวไหนอีกตรงตามทางไปอย่างเดียวประมาณ 6 กม. ก็จะถึงวัดท่าซุง สังเกตได้ง่าย ๆ ว่าหน้าวัดจะมีเพิงขายของของชาวบ้านอยู่เยอะเลย เห็นแล้วก็ชะลอรถได้


วัดทางฝั่งนี้อยู่ติดกับแม่น้ำสะแกกรัง แล้วก็มีแพปลาให้ได้ไปทำบุญเลี้ยงปลากันด้วย เลี้ยวรถเข้ามาก็จะเห็นศาลาหลังนี้ เป็นศาลาเก่าแก่ของวัด ก็เดินตามป้ายมาได้เลย


เดินมาหน่อยก็ถึงแล้ว



สงสัยมีคนมือบอนจับมาขึ้นมาเล่น จนวัดต้องทำป้ายติดห้ามเอาไว้



อาหารปลาถุงละ 10 บาท ขนมปังก็ 10 บาทเหมือนกัน



ตรงนี้มีบริการเรือล่องชมแม่น้ำสะแกกรังกันด้วย สามารถลงเรือไปชมจุดที่แม่น้ำสองสายคือสะแกกรังกับเจ้าพระยาไหลมาบรรจบกัน

ค่าบริการคนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท ใช้เวลาประมาณ 40 นาที แต่ต้องมี 10 คนขึ้นไปเรือถึงจะออก ส่วนถ้าจะเช่าเหมาลำออกไปเที่ยวก็ได้เหมือนกัน ยังไงก็โทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่เบอร์ 089-958-1479



บรรยากาศในเรือ สะอาดสะอ้าน นั่งได้สบาย



ถ้าได้นั่งเรือออกไปคงได้อารมณ์ประมาณนี้



ไปต่อกันที่วิหารแก้ว 100 ม. ความที่อาณาบริเวณของวัดกว้างขวางมากถึงกว่า 300 ไร่ ตัววิหารอยู่ห่างไปพอสมควร เพราะงั้นควรเอารถไป ให้วิ่งรถย้อนกลับเข้าเมืองมาประมาณ 600 ม. จะมีทางเข้าอยู่ซ้ายมือ มีป้ายชี้ทางเอาไว้ หรือสังเกตเอาจากเพิงขายของฝั่งตรงข้ามทางเข้าก็ได้


เข้าไปแล้วจะมีลานจอดรถกว้างขวางอยู่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ แต่ถ้าแดดร้อนนักแนะนำให้หาที่จอดใต้ร่มไม้ แล้วจะมีทางเดินใต้ร่มเดินเข้าไปที่วิหารอีกที


ทางขึ้นวิหาร



วิหารนี้มีเวลาเปิดปิดกันด้วย ช่วงเช้าจะเปิดช่วง 9.00-11.45 น. แล้วมาเปิดช่วงบ่ายอีกทีระหว่าง 14.00-16.00 น. ส่วนกล้องวงจรปิดที่เห็น ไม่ได้เอาไว้ดูคนเข้าออก แต่มีไว้รักษาความปลอดภัยให้รองเท้าที่ถอดกันเอาไว้


ที่นี่ชื่อ วิหารแก้ว 100 ม. เพราะตัววิหารยาวถึง 100 ม. แล้วยังประดับกระจกวิบวับไปทั้งวิหารอย่างนี้



มากราบพระพุทธชินราช (จำลอง) กันก่อน



อีกด้านจะได้มากราบสังขารของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่สังขารของท่านก็ยังประกาศธรรมให้เราเห็นว่า อย่าได้ประมาทในการทำกุศล เพราะถึงที่สุดแล้วก็ไม่มีใครจะผัดผ่อนผิดเพี้ยนจากความตายไปได้..!


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 4/7/09 at 09:40 [ QUOTE ]


(Update 04/07/52)



โอวาทครั้งสุดท้ายของหลวงพ่อ

"ลูกเอ้ย.... นี่เป็นธรรมดาของร่างกาย

มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย เป็นธรรมดา

สังขารมันเป็น อนิจจัง ไม่เที่ยงหรอก

ทุกขัง ตอนอยู่ มันเป็นทุกข์

แต่ผลที่สุด มันก็ อนัตตา สลายไป มีแค่นี้

อย่ามายึดสังขารพ่อเลย"




เลยเข้าไปด้านในยังมีปราสาททอง




ลวดลายทวารบาลที่บานประตู




ระหว่างที่จะเข้าไปที่ปราสาททอง แวะที่มณฑปพระศรีอาริย์กันก่อน



เชื่อกันว่าในภัทรกัปป์นี้ จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 5 องค์ด้วยกัน ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 4 องค์ องค์ที่ 4 ก็คือพระสมณโคดม ซึ่งคือพระพุทธเจ้าที่เรารู้จักกันดี ส่วนองค์ถัดไปคือ พระศรีอาริยเมตไตรย



เข้ามาชมกันใกล้ ๆ




ใกล้ ๆ กันจะเป็นวิหารสมเด็จองค์ปฐม




เป็นพระพุทธรูปที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำให้สร้างขึ้น เพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าพระองค์แรก ซึ่งท่านได้นิมิตเห็น



ชมหลายที่จนเหนื่อยแล้ว ย้อนมาตรงลานจอดรถหน้าวิหารแก้ว 100 ม. จะมีศาลาพักผ่อน พร้อมร้านกาแฟให้นั่งพักชิว ๆ หายร้อนก่อนไปต่อ



ที่สำคัญยังเป็นร้านกาแฟแนวธรรมะ มีหนังสือธรรมะของหลวงพ่อให้อ่านกันด้วย



รถซาเล้งที่จอดอยู่หน้าวัด พาไปเที่ยวส่วนอื่นของวัด ค่าบริการ ถ้าให้พาวนเที่ยวเฉย ๆ ไม่จอดแวะก็คนละ 3 บาท แต่ถ้าแวะด้วยก็คนละ 5 บาท ขากลับก็รอสองแถวสายเดิมแถว ๆ หน้าวัดกลับเข้าเมืองมา


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 12/4/18 at 23:06 [ QUOTE ]


.

[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top