ข่าวศูนย์ฯ (ธัมมวิโมกข์ พฤศจิกายน 2551) "เว็บวัดท่าซุง"
ข่าวศูนย์ ฯ
ข้อมูลจาก...หนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑
" วิชชุดา " - รวบรวม
พิธีพุทธาภิเษกประจำปี ณ พระอุโบสถวัดท่าซุง
วันเสาร์ที่ ๒๗ ก.ย. ญาติโยมเดินทางกัน มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่จากทั้งกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด เพื่อจับจองที่นั่งและนำวัตถุมงคล สิ่งของ รวมทั้งขนม
และน้ำดื่มมาเข้าร่วม "พิธีพุทธาภิเษก" ภายในวงสายสิญจน์ เพื่อเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย โดยนำไปวางไว้ด้านหลังพระอุโบสถ
ส่วนรอบนอกพระอุโบสถก็เต็มไปด้วยรถยนต์ของบรรดาลูกศิษย์วัดท่าซุง ที่ต่างพากันลากโยงสายสิญจน์ออกมาจากภายในพระอุโบสถมาพันรอบตัวรถ
เพื่อเสริมเพิ่มสิริมงคลให้แก่ยานพาหนะกันถ้วนหน้า
ท่านพระครูปลัดอนันต์ และคณะพระสงฆ์วัดท่าซุงและพระอาคันตุกะ ต่างก็ทยอยเดินเข้าพระอุโบสถตั้งแต่ก่อนเวลา ๐๘.๐๐ น. รวมทั้งหลวงพี่โอ หรือ
พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร ซึ่งไปจำพรรษาที่ระยองได้เดินทางกลับมาที่วัด เพื่ออยู่ร่วมงานพุทธาภิเษกตั้งแต่เมื่อเย็นวันที่ ๒๖ นอกจากนี้ยังมี
หลวงปู่อินทร์ และพระผู้ติดตามจาก วัดผาน้ำทิพย์ จ.ร้อยเอ็ด เข้าร่วมทำพิธีอีกด้วย
พิธีเริ่มเวลา ๐๘.๓๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ กล่าวจบพระเจ้าหน้าที่เปิดเทปบวงสรวงและชุมนุมเทวดา
เทปบวงสรวงจบ พระครูสมุห์พิชิต เป็นผู้นำคณะสงฆ์สวดอิติปิโส ตามกำลังวัน ถ้าตรงกับวันเสาร์ ต้องสวดถึง ๒๑ จบ ท่วงทำนองแห่งการสวด อิติปิโส
ดังกึกก้องกังวาลไปทั่วบริเวณรอบพระอุโบสถ พุทธบริษัทร่วมกันสวดมนต์ด้วยจิตที่เป็นสมาธิตั้งมั่นด้วย
============================================================================
ข้อความต่อไปนี้เป็นข้อความที่แทรกจาก "เว็บมาสเตอร์"
ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนที่จะถึงวันทำพิธี "เป่ายันต์เกราะเพชร"ก่อนงานในตอนเย็น
บางครั้งท่านจะทำพิธีพุทธาภิเษกในโบสถ์ก่อน โดยบอกให้ผู้ที่ร่วมพิธีด้านนอกภาวนา "พุทโธ" ไปด้วย จะสามารถรับ "ยันต์เกราะเพชร" ได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย
ด้วยเหตุนี้ หลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว จึงยังมีผู้คนสนใจเดินทางไปร่วมพิธีพุทธาภิเษก เพราะเชื่อว่าจะสามารถอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า
บารมีหลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน รับยันต์เกราะเพชรเข้าคลุมในขณะที่ทำพิธีปลุกเสกอยู่ในบริเวณพระอุโบสถ หลังเสร็จพิธีแล้วมีหลายคนมาเล่าให้ฟังว่า
มีอาการเหมือนกับที่เคยเข้าร่วมพิธีกับหลวงพ่อฯ
ฉะนั้น หลังจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ มรณภาพแล้ว มักจะมีคนสอบถามว่าเมื่อไรจะเป่ายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านบอกไม่ทำหรอก
เพราะการเป่ายันต์เกราะเพชรจะต้องใช้สมาบัติชั้นสูง เมื่อครูบาอาจารย์ทำไว้ดีแล้ว พวกเราลูกศิษย์รุ่นหลังไม่ทำเลียนแบบ
ตามมรรยาทของลูกศิษย์ที่ดีเขาไม่ทำกัน ที่อื่นเขาทำนั่นก็เป็นเรื่องของเขา แต่วัดท่าซุงไม่ทำแน่นอน แล้วการทำสมัยนั้นก็เพราะมีเหตุว่า มีผู้ทำ
"ไสยศาสตร์" เข้ามาที่วัดอยู่เสมอ การเป่ายันต์ก็เพื่อเป็นการป้องกันภัยในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ในสมัยนี้ก็ไม่จำเป็นอีกแล้ว
โดยเฉพาะ "ลูกแก้ว" "แหวนจักรพรรดิ์" หรือ "สมเด็จองค์ปฐม" (พระกริ่ง รุ่น ๓) เป็นต้น ตลอดถึงวัตถุมงคลต่างๆ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทำไว้
ถ้าหากจำหน่ายไปจนหมดสิ้นก็ถือว่าหมดไปเลย เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันนี้ท่านบอกว่าจะไม่ทำซ้ำอีก ไม่ว่าจะกรณีใดทั้งสิ้น นอกจากจะทำรุ่นใหม่ขึ้นมาต่างหาก
อันนี้ไม่ถือว่าผิดมรรยาท พวกเราที่เป็นศิษย์รุ่นหลังจะต้องรักษาจริยานี้ไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการแจก "ซีดีคำสอน" ควบคู่ไปกับคำสอนหลวงพ่อฯ
ในบางเว็บไซด์ก็ตาม จะต้องคิดไว้ให้รอบคอบเสียก่อนด้วย.
==============================================================================
ความพร้อมเพรียงและยึดมั่นศรัทธาในคุณพระศรีรัตนตรัย เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ได้เมตตามาสงเคราะห์และโมทนาในระหว่างทำพิธี
รวมทั้งหลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่ขนมจีน หลวงปู่ปาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ เมื่อถึงครบรอบกำหนดสวด
พุทธบริษัททุกคนต่างตั้งใจทำสมาธิอธิษฐานจิตอาราธนาขอบารมีพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ ให้คุ้มครองตัว
ผู้เป็นที่รัก ครอบครัว สถาบันพระมหากษัตริย์ และประเทศชาติไทย
ภายหลังจบพิธี ท่านพระครูปลัดอนันต์ พระครูสมุห์พิชิต ประพรมนํ้าพระพุทธมนต์ให้กับบรรดาญาติโยมและสิ่งของที่มาเข้าพิธีโดยรอบพระอุโบสถ
หลังจากเสร็จพิธี หลวงปู่อินทร์ ได้เมตตาพูดคุยและให้โอวาทสอนธรรมะแก่ญาติโยมที่ รอกราบชมบารมีและถวายปัจจัยที่ศาลานวราช
จนกระทั่งก่อนถึงเวลาฉันภัตตาหารเพลจึงเลิกสนทนา
งานกตัญญูกตเวทิตามงคล และงานฉลองวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด ๖๐ ปี
ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ณ มณฑลพิธีศาลา ๑๒ ไร่
ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๓๐ ก.ย. ๒๕๕๑
วันเสาร์ที่ ๒๗ ก.ย. ญาติโยมและคณะศิษย์ทั้งหลายต่างนำเครื่องสักการะบูชา มีบายศรี ธูปเทียนแพ พานพุ่มเงิน-พุ่มทอง ดอกบัวแก้วคริสตัล
เดินทางเข้ามารอในบริเวณพิธีตั้งแต่ช่วงบ่าย วงดนตรีมโหรีปี่พาทย์ เครื่องสาย อังกะลุง ของคณะนักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระ
บรรเลงเพลงไพเราะให้ฟังเพลิดเพลินระหว่างรอเวลาเริ่มพิธี
เมื่อ ท่านพระครูปลัดอนันต์ ฯ เดินทางมาถึงมณฑลพิธี ได้ทักทายพูดคุยญาติโยมและ กับพระเจ้าหน้าที่
แล้วเดินขึ้นอาสนสงฆ์กราบพระประธานและกราบรูปภาพพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ แล้วจึงเข้านั่งที่โซฟาในบริเวณพิธีบนอาสน์สงฆ์
แวดล้อมไปด้วยโยมแม่และญาติโยมพุทธบริษัทที่ตั้งใจมาร่วมในงานกตัญญูกตเวทิตามงคลด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ดร. ปริญญา นุตาลัย นั่งอยู่ด้านขวา ทำหน้าที่โฆษกและทายก นอกจากนี้ยังมีพระอาคันตุกะที่คุ้นเคยเคารพ ท่านพระครูปลัดอนันต์
มาร่วมงานกันหลายรูป อาทิเช่น พระอาจารยหนุน วัดพุทธโมกข์ จ. สกลนคร, หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) จ.สระบุรี, หลวงพี่วิรัช สำนักสงฆ์ธรรมยาน
จ.เพชรบูรณ์
พิธีการเริ่มเป็นทางการเวลา ๑๖.๐๐ น. ดร. ปริญญา กล่าวอาราธนาพระสงฆ์วัดท่าซุงทั้งหมดขึ้นอาสนสงฆ์
ระหว่างนี้วงมโหรีปี่พาทย์เครื่องสายอังกะลุงบรรเลงคลอตลอด พระสงฆ์นั่งเรียบร้อยแล้ว ท่านพระครูปลัดอนันต์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
ดร.ปริญญา กล่าวนำญาติโยมทั้งหมดกราบพระ อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล ทายกอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์วัดท่าซุงเจริญพระพุทธมนต์ สวดมนต์ ๗ ตำนาน จบแล้ว
ท่านพระครูปลัดอนันต์ ถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ เรียบร้อยแล้วพระสงฆ์ให้พร
ต่อมาพิธีการย้ายไปอยู่ที่เวทีหน้าพระประธาน ดร. ปริญญา กล่าวอาราธนาพระสงฆ์
พร้อมกับเชิญคณะศิษย์และญาติโยมทั้งหมดให้มารวมกันที่บริเวณเวทีหน้าพระประธาน จากนั้นจึงเริ่มทำพิธีขอขมากรรม โดยตั้งนะโม ๓ จบ แล้วขอขมา
ท่านพระครูปลัดอนันต์ เผื่ออาจจะประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินท่านด้วยกาย วาจา ใจ โดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
เพื่อจะได้ไม่มีกรรมต่อกันและไม่ขวางการปฏิบัติให้ได้มรรคได้ผล
เสร็จแล้วคณะพระสงฆ์เข้าถวายเครื่องสักการะบูชา มีบายศรี ธูปเทียนแพ จากนั้นคณะพระสงฆ์นำลูกศิษย์วัดท่าซุงทั้งหมดทยอยกันเข้าสรงน้ำขอพรจาก
ท่านพระครูปลัดอนันต์
หลังจากพักสักครู่หนึ่งผู้แทนคณะศิษย์กลุ่มต่าง ๆ เข้าถวายเครื่องสักการะ มีบูชาบายศรีธูปเทียนแพ
ดร. ปริญญา กล่าวประกาศเกียรติคุณความดีท่านพระครูปลัดอนันต์แล้ว ท่านพระครูปลัดอนันต์ กล่าวสัมโมทนียกถาเล็กน้อย จากนั้น อุทิศส่วนกุศล
เป็นอันเสร็จพิธีวันนี้ เวลาประมาณ ๑๙.๓๐ น.
หากญาติโยมท่านไหนถือศีล ๕ รับประทานอาหาร ๓ มื้อและไม่ได้รีบกลับที่พัก คงได้มีโอกาสแวะชิมอาหารที่ศาลา ๔ ไร่
รอบหัวค่ำและได้เห็นภาพที่น่าชื่นใจแทนเจ้าภาพอาหารทั้งหลายที่เลี้ยงอาหารอยู่ในคืนนั้น ท่านพระครูปลัดอนันต์
เมตตาแวะเข้าไปเดินทักทายเจ้าภาพเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาหาร เมตตาพูดคุยในทุกจุดที่ยังคงมีเจ้าภาพ เจ้าหน้าที่นั่งอยู่รอบศาลาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
งานฉลองวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด ๖๐ ปีของท่านเจ้าอาวาสมีครั้งเดียวทั้งที ตลอดวันของวันที่ ๒๗ ก.ย. และช่วงเช้าวันที่ ๒๘ ก.ย.
เลยมีเจ้าภาพอาหารมากเจ้าหลายรายการครบทั้งอาหารคาว หวาน และอาหารเจ ร่วมเลี้ยงญาติโยมจนเลือกกินไม่ถูกเลยละ.. ยกนิ้วให้ว่าอร่อยไปซะทุกรายการ
มีให้กินมากกระทั่งกินตั้งแต่มื้อเช้าถึงมื้อเย็นมืดค่ำก่อนนอนก็ยังไม่หมดเลยเชียว ต้องขออนุโมทนากับเจ้าภาพอาหารทุกคณะด้วย
เริ่มกันตั้งแต่กลุ่มอาหารคาว ก๋วยจั๊บรสเริ่ดลิ้นหอมเครื่องเทศ (หลวงพี่โอและคณะเจ๊หงษ์พี่สาวท่าน) ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเนื้อนุ่มนํ้าซุปหวานกลมกล่อม
(หลวงพี่ชัยวัฒน์และคณะลูกหมู) ลูกชิ้นหมูเนื้อแน่นลูกชิ้นปลาเหนียวนุ่มจิ้มลวกน้ำจิ้มรสเด็ด (ศูนย์ปฎิบัติธรรมศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน โคราช)
ข้างลอดช่องเนื้อนุ่มเป็นหอยทอดกรุบกรอบรสอร่อยคิวต่อรอยาวเป็นหางว่าวเมนูสุดฮิตประจำงานวัดท่าซุง (พระชลอ วัดศาลพันท้าย ฯ )
อาหารเหลารสเด็ดหลากเมนูรวมของหวานอย่างแป๊ะก๊วย หมูทอดซอสนํ้าแดง ปลากระพงทอด ที่ปล่อยให้ตักเติมกันได้ตามใจคนกินจึงหมดเร็ว
จนญาติโยมหลายท่านบ่นว่าเดินวนมาไม่ทัน
(คณะเสี่ยเจ็ง จากร้านอาหารแม่ศรี กรุงเทพฯ) ข้าวต้มทะเล อาหารเจรสอร่อย และแซนวิชเจ (คุณศิริกัญญาและคณะสะพานหิน) ก็มีให้เลือกกิน
อาหารอร่อยไปซะทุกอย่างจนต้องต่อคิวหลายรายการ กว่าจะวนกลับมากินของหวานเครื่องเคียงต่าง ๆ ท้องก็เกือบแน่นแวะชิมได้ไม่ครบ ปาท่องโก๋ก็อร่อย
ข้าวโพดต้มก็สดหวานแทะเพลินใส่ถุงหยิบง๊ายง่าย บัวลอยไข่หวานรสดีหวานมันจนเผลอชิมหมดถ้วย
(คณะพี่น้องท่านเจ้าอาวาส) ไอศกรีม กะทิสดรสหวานมันเข้าคู่กันกินเพลินกับโคนช็อกโกแลตอยู่คู่กันกับข้าวเม่ากล้วยทอด เฉาก๊วยก็อร่อยหวานชื่นใจ
ผลไม้สดหลากชนิดละลานตา (คณะศิษย์ป่าละอู) เครื่องดื่มร้อนเย็นสมุนไพรชื่นใจมีหลายเจ้าหลายจุด งานนี้รอบเอวหลาย ๆ คนขยายจนถึงขั้นคับ..
ขอโมทนากับเจ้าภาพอาหารทั้งหมดอีกหน.. สาธุ สาธุ สาธุ
วันอาทิตย์ที่ ๒๘ ก.ย. งานเช้าวันนี้เริ่มที่เวลา ๐๖.๐๐ น. พระสงฆ์ทั้งหมดฉันภัตตาหารเช้าที่ศาลา ๑๒ ไร่ จากนั้น ท่านพระครูปลัดอนันต์
นั่งเป็นประธานที่อาสน์สงฆ์บริเวณหน้าพระประธาน ญาติโยมคณะศิษย์เริ่มเข้าถวายจตุปัจจัยร่วมบุญเข้ากองทุน ฯ พร้อมรับของที่ระลึกจาก ท่านพระครูปลัดอนันต์
เป็นเข็มกลัดทองรูปพระพุทธเจ้าพิมพ์สัมปจิตฉามิ พระผง หนังสือ "ลูกศิษย์บันทึกภาค ๒ เล่ม ๑" เกี่ยวกับความประทับใจที่มีต่อ
ท่านพระครูปลัดอนันต์ และ อีกเล่มปกสีม่วงแดงเป็น เรื่องชีวประวัติและผลงานของพระครูปลัดอนันต์
 |  |
ท่านพระครูปลัดอนันต์ ได้พูดคุยเรื่อง
อานิสงส์ความสำคัญของการใช้เครื่องบูชาบายศรีศิษยานุศิษย์เข้าถวายเครื่องบูชาบายศรีธูปเทียนแพและถวายจตุปัจจัยเข้ากองทุน ฯ มี ดร.ปริญญา
นั่งเล่าชีวิตประวัติของ ท่านพระครูปลัดอนันต์ ให้ญาติโยมฟังคร่าว ๆ และวงดนตรีมโหรีปี่พาทย์เครื่องสายอังกะลุงของคณะนักเรียนโรงเรียน
พระสุธรรมยานเถระบรรเลงเพลงไพเราะให้ฟังเพลิดเพลินระหว่าง รอเวลาก่อนที่จะเริ่มเปิดเทป ทำพิธีบวงสรวง เวลา ๐๗.๓๐น.
หลังจากนั้นนักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระแสดงรำถวายมืออ่อนช้อยสวยงามชุด บูชา และ อภิวาท ท่านพระครูปลัดอนันต์
มอบรางวัลให้ทั้งครูผู้ฝึกสอนการแสดงรำและบรรเลงดนตรีและนักเรียนผู้แสดงรำและนักดนตรีทุกคน
ต่อมาเป็นพิธีขอขมากรรมโดยตัวแทนคณะศิษย์เข้าถวายธูปเทียนแพเพื่อขอขมา
คณะศิษย์กลุ่มที่มาจากต่างจังหวัดเข้าถวายเครื่องบูชาบายศรีธูปเทียนแพและถวายจตุปัจจัยเข้ากองทุนฯ
จากนั้นจึงให้โอกาสลูกศิษย์ทั้งหลายที่ยังไม่ได้สรงน้ำได้เข้าสรงน้ำขอพรจาก ท่านพระครูปลัดอนันต์
ซึ่งเมื่อตอนที่สอบถามกันว่าใครยังไม่ได้สรงน้ำ ยกมือรับกันแค่ไม่กี่คน อยู่แค่ในหลักสิบ คาดว่า ใช้เวลาไม่กี่นาที
แต่พอประกาศให้เข้าสรงน้ำปรากฏว่าหางแถวยาวร่วมร้อย หลายคนออกไปสรงน้ำซ้ำอีกรอบเพราะได้พรหนเดียวไม่จุใจ อยากได้พรซ้ำจาก ท่านพระครูปลัดอนันต์
กันทั้งนั้น
สำหรับท่านที่ปรารถนาจะถวายปัจจัยเข้าร่วมกองทุน ฯ สามารถถวายกับ ท่านพระครูปลัดอนันต์ ได้โดยตรง หรือกรุณาโอนเงินเข้าบัญชี กองทุน ฯ
โดยตรงตามรายละเอียดดังนี้
ธนาคารกรุงไทย สาขาอุทัยธานี
ชื่อบัญชี กองทุนพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ
หมายเลขบัญชี ๖๑๙-๐-๑๙๕๙๔-๖
จากนั้นเวลา ๑๐.๓๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ดร. ปริญญา กล่าวนำญาติโยมทั้งหมดกราบพระ อาราธนาศีล
อาราธนาพระปริตร
จากนั้นพระสงฆ์วัดท่าซุงเจริญพระพุทธมนต์ และฉันภัตตาหารเพลที่ศาลา ๑๒ ไร่ ท่านพระครูปลัดอนันต์ ถวายจตุปัจจัยไทยทานแด่
พระเถระที่มาร่วมงานด้วย
จากนั้นคณะศิษย์ทั้งหมดร่วมกันอ่านโคลงสี่สุภาพชื่อกตัญญูกตเวทิตามงคลสดุดี พระเกียรติคุณทำนองเสนาะมี ครูเอื้อย และ ดร.ปริญญา
เป็นต้นเสียงนำ คัดลอกความบางตอนมาดังนี้
"...สืบสมภารเจ้าวัด จันทารามเอย
สานจิตตามครูบา สั่งไว้
รักษาวัดตระการตา งามเด่น
สร้างเพิ่มเติมต่อให้ศิษย์ได้ ร่วมบุญ
พระการุณเปี่ยมล้น ดวงใจศิษย์เอย
มโนมยิทธิสอนไป ทั่วหล้า
ธุดงควัตรจัดให้ ปฏิบัติ
จูงจิตศิษย์ทั่วหน้า มุ่งเมืองนิพพาน..."
จากนั้นวงดนตรีมโหรีปี่พาทย์เครื่องสายอังกะลุง บรรเลงขับเพลงมงคลสดุดี จบแล้ว ท่านพระครูปลัดอนันต์ กล่าวสัมโมทนียกถา มีใจความโดยย่อว่า
".....อาตมาขอแสดงความยินดีซาบซึ้งในใจว่า
หลวงพ่อท่านมรณภาพไปแล้วก็ยังมีญาติโยมที่เป็นศิษย์ที่เป็นที่รักของหลวงพ่อยังให้การสนับสนุน ให้การทะนุบำรุง
แม้แต่หลวงพ่อรวมมาถึงลูกวัดที่ยังเป็นผู้น้อยด้อยโอกาสกำลังบำเพ็ญความดียังอยู่ในขั้นที่ว่าต้องดิ้นรนข้อวัตรปฏิบัตให้ตัวเองมีมรรคมีผลตามความปรารถนา
ฉะนั้นการอยู่ร่วมถือเป็นศิษย์ครูบาอาจารย์เดียวกัน ยังรัก ยังสนับสนุน พระท่านก็มีกำลังใจ รวมทั้งอาตมาด้วย
เพราะการทำงานเมื่อครั้งหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่มีแต่จิตที่เป็นกุศล
ส่วนตัวเราก็ยังเป็นปุถุชนยังดิ้นรนอยู่อย่างนี้การจะมีผู้ประคับประคองให้การสนับสนุนมันก็มีความสบายใจและทำงานได้สะดวก
เมื่อหลวงพ่อท่านมรณภาพไปแล้วก็มีด็อกเตอร์เป็นผู้เข้ามาใกล้ชิด ทางวัดจะมีปัญหาเรื่องอะไรก็เป็นที่ปรึกษาได้เป็นอย่างดี
พร้อมเพื่อนภิกษุและญาติโยมที่มีความใกล้ชิดหลวงพ่อที่มีความรักนับถือท่านเต็มดวงใจก็ให้ความเอื้อเฟื้อทั้งความคิด กิจกรรม
ถึงวันนี้ก็แสดงแล้วถึงว่าให้ความเอื้อเฟื้ออาตมา เราก็ภูมิใจที่ได้รับใช้งานพระพุทธศาสนาแม้จะไม่บริบูรณ์
แต่พวกเราเป็นพระภิกษุก็เต็มใจที่จะทะนุบำรุงสถานที่ต่าง ๆ และคำสอนของหลวงพ่อนั้นให้ทรงตัวไม่ให้กลายพันธุ์
ไม่ให้กลายความคิดที่จะผิดเพี้ยนไปจากคำสอนของครูบาอาจารย์ซึ่งที่เป็นพระอันประเสริฐที่จิตใสสะอาดปราศจากซึ่งกิเลสแล้ว
เราก็จะทะนุถนอมคำสอนของท่านให้สืบทอดไปถึงอนุชนรุ่นหลังเป็นความปรารถนาของพวกเรา
ฉะนั้นจึงไม่ได้เอาสิ่งภายนอกเข้ามาแทรก โดยที่เรากลั่นกรองแล้วว่าถ้ายังพิจารณาไม่ถ่องแท้ก็จะไม่เอาเข้ามาเป็นยาพิษสำหรับให้โยมเอาไปใช้ผิดถูกอีก
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของจิตใจที่เราปรารถนาอย่างนั้น
เมื่อหลวงพ่อท่านมรณภาพก็จะสรรหาสิ่งอะไรที่จะเป็นพระมหากุศลก็มีธุดงควัตรนั้นเป็นปัจจัยเป็นตบะ ทำความเพียรที่จะเผาผลาญซึ่งความเศร้าหมองของจิต
เราก็สร้างกิจกรรมนั้นให้เป็นกิจกรรมเพื่อลดละซึ่งกิเลสของพวกเรา
ส่วนก่อสร้างสถานที่ต่าง ๆ ก็ได้รับความเอื้อเฟื้อจากญาติโยมทุกท่าน ไปที่สายลมก็ดี อยู่ที่วัดก็ดี
มีกิจกรรมงานวัดก็ดีตัวนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าพวกเรา อุบาสก อุบาสิกา ภิกษุ สามอย่างนี้ถ้าทรงตัวอยู่ได้ พุทธศาสนาก็เจริญ
เราก็เป็นผู้หนึ่งทั้งอุบาสกอุบาสิกาเป็นผู้ที่ได้ค้ำจุนพุทธศาสนาให้สืบทอดต่อ ๆ
กันไปตามที่หลวงพ่อตั้งปณิธานไว้ว่าจะช่วยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายืดยาวอายุพระพุทธศาสนาให้ทรงตัว......"
ทุกคนได้ฟังท่านพระครูปลัดอนันต์กล่าวแล้วเป็นที่ชื่นใจมาก เป็นความในใจของท่านที่เปิดเผยออกมาให้ทุกคนทราบว่าท่านมีเจตนาอย่างไรในการทำงานที่ผ่าน ๆ มา
หลังจากนั้นร่วมกันอุทิศส่วนกุศลและปิดงานในช่วงแรกของวันนี้
ในช่วงบ่ายคือ งานถือบวชพราหมณ์ ชาย-หญิงและกรรมบถ ๑๐ ที่บรรดาศิษยานุศิษย์จากที่ต่าง ๆ จำนวน ๕๑๑ คน สมัครใจเข้าร่วมเพื่อถวายกุศลแด่
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ และท่านพระครูปลัดอนันต์
เริ่มตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. ญาติโยมทั้งหลายที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรับบัตรประจำตัวเข้าแถวรายงานตัวที่ด้านข้างพระประธาน รับเอกสารเรื่อง
"ธรรมะเพื่อความเป็นพระโสดาบัน" เป็นหลักในการถือปฏิบัติ พร้อมทั้งใบประเมินผล
และเริ่มแบ่งกลุ่มจัดแถวที่นั่งกันซึ่งใช้เวลานานพอสมควรเพราะจำนวนคนเพิ่มมากกว่าที่ได้คาดหมายไว้
แต่ทุกคนก็รักษาจริยาความเป็นระเบียบเรียบร้อยไว้ได้อย่างน่าชื่นใจ
พระบุญชู และ พระอนุชิต (พระต้อม) ทำหน้าที่เป็นพระพิธีกร ทั้ง ๒ รูปได้พูดคุยชี้แจงระเบียบกฎการถือปฏิบัติระหว่าง ๓ วัน พอสรุปได้ว่า
ระเบียบคือสิ่งที่รักษาใจ รักษาผู้ปฏิบัติธรรม เป็นเครื่องป้องกันทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมมีความสุขเหมือนร่มที่ช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้เปียกฝน
กรรมบถ ๑๐ คือระเบียบที่เป็นธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า การเลือกถือปฏิบัติข้อธรรมะไม่ว่าจะเป็น กรรมบถ ๑๐ จรณะ ๑๕ บารมี ๑๐ พรหมวิหาร ๔ นิวรณ์ ๕
อิทธิบาท ๔ ไตรลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สังโยชน์ ๑๐ ขอให้ทุกคนตั้งใจประเมินผลตัวเองด้วยความซื่อสัตย์ว่าทำอย่างไรถึงจะผ่าน
ต้องระลึกถึงคำสอนของหลวงพ่อที่ให้กล่าวโทษโจทย์ตัวเองอยู่เสมอ
และหากตั้งใจปฏิบัติตลอดชีวิตก็เป็นมงคลกับทุกคนและขอโมทนาด้วย เจตนารมณ์ในการมาปฏิบัติธรรมครั้งนี้เพื่อถวายกุศลให้กับ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ
และท่านเจ้าอาวาส เมื่อตั้งใจมาทำดีแล้วก็น่าจะได้สิ่งที่ดีกลับไปประพฤติปฏิบัติด้วยและต้องใช้หลัก สังคหวัตถุ ๔
เพราะเป็นธรรมะที่ทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
เวลา ๑๖.๓๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ ทำพิธีบวงสรวง จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระครูสมุห์พิชิต นำสวดมนต์ทำวัตรเย็น เจริญพระกรรมฐาน
ต่อมาเวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น.จึงทำพิธีสมาทานศีล ๘ บวชพราหมณ์ชาย-หญิง
พระครูสมุห์พิชิต เริ่มพิธีปฐมนิเทศน์ ให้โอวาทอบรมผู้มาปฏิบัติธรรม มีใจความโดยย่อว่า
"..ขอบใจโยมที่มีนํ้าใจเสียสละมาร่วมปฏิบัติความดีบวชให้ท่านเจ้าอาวาส
ขอให้ทุกคนมีนํ้าใจต่อกันอย่าไปดูจริยาคนอื่นให้ดูความชั่วของตัวเอง คุยกับจิตตัวเองให้มากให้มีสติเสียสละพยายามละกายวาจาใจไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ปฏิบัติกรรมบถ ๑๐ ให้เป็นไปตามธรรมชาติโดยไม่ต้องบังคับกันก็จะปิดอบายภูมิได้โดยสิ้นเชิง
ทุกคนอยากดีกันทั้งนั้น แต่ตัวทำยังมีไม่มากพอ ต้องสอนตัวเองให้เอาทุกข์มาแลกสุข ปฏิบัติตอนที่มีกำลัง ดี ๆ พอแก่ตัวก็สบาย
ฝืนเพื่อทำความดีไม่ตามใจตัวเอง ให้อภัยเสียสละ ดูตัวเองให้มาก ไม่เอ่ยชื่อบุคคลที่ ๓ ให้ดูตัวเองคิดแต่อย่าไปคิดกับมัน อย่าเอาทั้งสุขทั้งทุกข์
อย่าไปยึดติด ทำให้เหมือนกับการตำข้าว ค่อย ๆ ขัด ค่อย ๆ ทำ เดี๋ยวมันก็ขาวในที่สุด..."
ปิดท้ายด้วยการให้โอวาทจาก ท่านพระครูปลัดอนันต์ มีใจความโดยย่อว่า
"....ขอบคุณน้ำใจที่ตั้งใจมาประพฤติซึ่งการลดละเลิกกิเลสเพื่อทำให้ใจสะอาดจากความเศร้าหมองให้บางเบาซึ่งราคะ โทสะ โมหะ ไม่ยึดติดในวัฏฏะ
ไม่อาวรณ์ในโลกทั้งสาม
ให้ปรารถนาซึ่งความสะอาดคือพระนิพพาน...ที่มีลมหายใจอยู่ก็เพื่อเร่งรัดตัวเองให้ถึงซึ่งความพ้นทุกข์...เป็นส่วนหนึ่งที่ค้ำจุนพุทธศาสนาให้ทรงอยู่ครบ ๕๐๐๐
ปี..."
เช้ามืดของ วันจันทร์ที่ ๒๙ ก.ย. ทุกคนรวมตัวกันด้วยความสงบเป็นระเบียบเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนเวลานัดหมาย เวลา ๐๖.๐๐ น.
ท่านพระครูปลัดอนันต์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย สวดมนต์ทำวัตรเช้า เจริญพระกรรมฐาน และอุทิศส่วนกุศล
หลังจากนั้นจึงร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยกันภายในบริเวณใต้อาคารที่ศาลา ๑๒ ไร่ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการฝึกมโนมยิทธิในเวลา ๐๙.๐๐ น.
 |  |
อาหารเช้ามีทั้งอาหารคาวหวาน ขนมปัง ข้าวต้ม ผลไม้ และอาหารเจซึ่งมีมากเป็นพิเศษเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจพอดี
เรียกได้ว่าบำรุงกายให้อิ่มท้องช่วยสร้างใจให้อิ่มบุญได้โดยง่าย นอกจากนี้ยังมีมุมเครื่องดื่มร้อนไว้ให้บริการตัวเองอีกต่างหาก
สบโอกาสเอ่ยถึงเรื่องอาหารภายในงานทั้งทีต้องขอบคุณ คุณต๋อยและคณะ ทีมเดิมเจ้าประจำที่ทำหน้าที่เป็นหลัก
ในจัดเลี้ยงอาหารคาวขนมหวานตลอดงานด้วยความชำนาญการแบบมือโปรเช่นเดิม
นอกจากนี้ยังมี คุณวิชชุดาและคณะ เป็นเจ้าภาพร่วมเลี้ยงอาหารเพิ่มเติมหยิบง่ายกินสะดวกอย่างเช่น สารพัดแซนวิช พิซซ่า และสลัดผัก
แถมยังมีเจ้าภาพเลี้ยงเครื่องดื่มเย็นช่วยคลายความร้อน ชาดำเย็น โอเลี้ยง ให้บริการเพิ่มเติมตามสะดวกอยู่บริเวณใต้อาคารด้านข้างพระประธานอีก
ปิดท้ายวันสุดท้าย Mr. Shake
ยังเลี้ยงน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะโรยหน้าด้วยมะม่วงสุกเหลืองและผลสตอเบอร์รี่สดแช่แข็งให้ชิมกันคนละถ้วยก่อนกลับที่พักหลังรับประทานอาหารกลางวัน
ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพอาหารทุกท่านทุกคณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าภาพฝ่ายที่จัดอาหารสำหรับถวายพระสงฆ์ทั้งวัดทุกวันนั้น
ช่างเลือกคัดสรรเมนูมาถวายได้ดีเยี่ยมจริง ๆ...สาธุ
ด้วยความที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมงานถือบวชพราหมณ์ชาย-หญิงและกรรมบถ ๑๐ เป็นจำนวนมาก ถึง ๕๑๑ คน
การฝึกมโยมยิทธิแบบครึ่งกำลังจึงต้องมีการนิมนต์พระและเชิญครูผู้ฝึกสอนไปซักซ้อมปรับระดับการสอนให้เสมอกันหมดก่อนที่จะเริ่มแบ่งลูกศิษย์ซึ่งมีหลายระดับ
มีทั้ง คนที่ไม่เคยฝึกได้เลยกระทั่งถึงคนที่ชำนาญมาก มารวมกลุ่มอยู่ด้วยกันซึ่งมีมากถึง ๒๗ วง พอดีกับจำนวนผู้สอนที่มาอยู่ร่วมในงานครั้งนี้
ในการฝึกมโนมยิทธิครั้งนี้เน้นการไปสถานที่สำคัญ ๓ แห่ง คือ พระจุฬามณี พระแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ และวิมานสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในพระนิพพาน
จากนั้นจึงอุทิศส่วนกุศล
เวลา ๑๑.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน จากนั้นเป็นกิจกรรมที่ให้ ลูกพ่อ แต่ละกลุ่มขึ้นพูดถึงความประทับใจที่มีต่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ฯ โดยพระพิธีกรอาราธนา ท่านพระครูปลัดอนันต์ ขึ้นเป็นประธานเล่าเรื่องความประทับใจที่มีต่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ
ขอตัดตอนมาให้ทราบดังนี้
"...ประทับใจก็ต้องอยู่ในใจ แต่จะเอาในใจออกมาเป็นคำพูดให้โยมรู้ โยมก็มีความประทับใจเหมือนเราแหละ.....อะไรก็ประทับใจไปหมด
ไม่เคยได้ยินท่านชมเป็นส่วนตัวเพราะเราไม่มีอะไร ให้ท่านชม.....ท่านพูดกับเราว่า "ขอบใจนะที่ห่วงใย...." ท่านพูดได้แค่นี้แล้วก็หยุด
หยิบผ้าออกจากย่ามเช็ดหน้า พวกเราก็น้ำตาร่วงเผาะ ๆ
กิจกรรมนี้มีลุ้นและเกร็งกันเล็กน้อยเพราะไม่ได้ให้เวลาเตรียมตัวพูดล่วงหน้า เชิญกันขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเลย ๑๐ คน เพราะเน้นที่ต้องการให้พูดสด
โดยไม่มีการเตรียมตัว ไม่มีการร่างคำพูด...พูดจากความในใจที่มีความประทับใจจริง ๆ
แทบทุกคนเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ ด้วยความตื้นตัน เสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอ เต็มไปด้วยความเคารพรักเทอดทูนบูชาและคิดถึง
เสมือนว่าช่วงเวลาแห่งความทรงจำเหล่านั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานนัก..
จากนั้นเวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. จึงร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเย็น เจริญพระกรรมฐาน และเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญอีกครั้ง คือ
พระสงฆ์วัดท่าซุงทั้งหมดร่วมกันนั่งล้อมวงรอบ ท่านพระครูปลัดอนันต์ เจริญพระพุทธมนต์ สวดพระปริตร เพื่อให้คุ้มครองทั้งผู้สวดและผู้ฟัง
งานพิธีร้อย "ดวงใจ" กราบถวายบูชา
แด่พระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ ผู้มีพระคุณอันไพศาล
 |  |
ก่อนที่จะทำกิจกรรมรอบค่ำต่อไปทุกคนก็ได้รับการแจ้งจากพระพิธีกรให้ไปรับพวงมาลัยเพื่อร่วมกิจกรรมพิเศษต่อไป รวมทั้งให้ญาติโยมได้ ร่วมทำบุญซื้อปลามาให้
ท่านพระครูปลัดอนันต์อธิษฐานปล่อยในวันรุ่งขึ้น
จากนั้นพระสงฆ์ทั้งหมดขึ้นเสนาสนะที่หน้าพระประธานและญาติโยมทั้งหมดเข้าประจำที่ร่วมกันเจริญพระกรรมฐาน
ในขณะที่กำลังเจริญพระกรรมฐานอยู่นั้น พระบุญชูกล่าวเกริ่นสดุดีความเพียรกว่า ๗๖ ปีแห่งปณิธานที่มุ่งมั่นของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ที่ไม่เคยปล่อยให้ลูกหลานทั้งหลายทราบว่าท่านทรมานสังขารมากเพียงใด
ท่านพระครูปลัดอนันต์ เป็นผู้กล่าวสรุปสดุดีพระเดชพระคุณความดีความอดทนต่ออุปสรรคความป่วยไข้ทางกายของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ
ที่เคยปรารถนาพระโพธิญาณปรารถนาจะรื้อขนสัตว์รวมทั้งลูกหลานทั้งหลายเพื่อให้พ้นทุกข์จากวัฏสงสารจึงเพียรสอนให้ลูกหลานศิษยานุศิษย์ทั้งหลายรักในงานสาธารณประ
โยชน์ให้ทรงจิตตั้งมั่นพอใจในธรรมในพระนิพพานถึงได้ทนทรมานชีวิตร่างกายให้ทรงอยู่แม้จะเข้าสู่ช่วงทุพพลภาพและเดิมพันด้วยชีวิตจนกระทั่ง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ ท่านละสังขารไปในที่สุดครบ ๑๖ ปีแล้ว
ในงานพิธีนี้ มีพวงมาลัยเป็นเครื่องแสดงความตั้งใจประพฤติปฏิบัติคุณความดีเดินตามรอยเท้าพ่อให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ หายเหนื่อย
แทนสัจจวาจาที่ลูกหลานให้ไว้ว่า จะรักษาความดีตั้งใจประพฤติรักษาธรรมอันบริสุทธิ์เพื่อมุ่งสู่พระนิพพาน
โดยมี ท่านพระครูปลัดอนันต์ เป็นผู้ผูกร้อยมาลัยธรรมแห่งความดีของลูกหลานทั้งหมด สืบสานต่องานของ พ่อ
ให้คงอยู่ต่อไปเพื่อถวายกุศลทั้งหมดบูชา พระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ที่เป็นที่รักยิ่งของลูกศิษย์ลูกหลานทุกคน
จากนั้นเป็นวิดีทัศน์ประมวลภาพ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ
ประกอบเพลงระลึกถึงความเพียรสู้อุปสรรคอย่างไม่ท้อถอยในการทำงานสาธารณประโยชน์เพื่อทะนุบำรุงพระศาสนาและประเทศชาติตั้งแต่สมัยท่านยังแข็งแรงจนกระทั่ง
ถึงวันสุดท้ายที่ท่านลงรับแขกก่อนที่จะละสังขารไปรอช่วยเหลือรับลูกหลานอยู่บนพระนิพพานในที่สุด
"...แม้ไม่อาจเทียบหนึ่งในล้าน
ลูกขอตั้งปณิธานสานสิ่งที่พ่อทำไว้
จะขอเดินตามรอยเท้าพ่อไป
เหนื่อยยากเพียงไหนไม่ทำให้พ่อผิดหวัง..."
คืนนั้นจบลงด้วยความเรียบร้อยและน่าทึ่ง กล่าวได้ว่าทุกคนที่ได้ฟังได้ชมได้ร่วมในกิจกรรมจะฝังจิตลงรากหยั่งลึกประทับในใจเทอดทูนคุณ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ และมุ่งตั้งมั่นที่จะทรงความดีไว้จนกว่าจะถึงลมหายใจสุดท้ายเพื่อจะได้พบ พ่อ อีกครั้ง
ขอขอบคุณ คุณกันต์กนิษฐ์ (ตาล) และ คุณอภิมุข อารยศิริกุล (ตุ๊) ลูกพ่อ ผู้มากด้วย ความสามารถ
เป็นเจ้าความคิดหลักช่วยสร้างสรรค์วางคอนเซ็ปต์ในการดำเนินรายการเรียกน้ำตาด้วยความรักอาลัยคิดถึง พ่อ ได้อย่างดียอดเยี่ยม ไม่เฉพาะแต่งานนี้
ทั้งสองท่านทำงานมาตั้งแต่เดือนก่อนในงานโครงการอบรมผู้ปฏิบัติธรรมครั้งที่ ๑ ซึ่งก็ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการกลั้นน้ำตาไม่อยู่เช่นกัน
วันอังคารที่ ๓๐ ก.ย. วันสุดท้ายของกิจกรรมครั้งนี้เริ่มที่ เวลา ๐๖๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
สวดมนต์ทำวัตรเช้า เจริญพระกรรมฐานร่วมกันแล้วอุทิศส่วนกุศล ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน ขบวนรถกระบะ ๓
คันก็บรรทุกปลาหลากชนิดซึ่งทางวัดไปเหมาซื้อยกตลาดจากในเมืองอุทัยธานีช่วงเช้ามืด มูลค่าเงินทำบุญซื้อปลาให้ ท่านพระครูปลัดอนันต์
ปล่อยทั้งหมดสูงหลายหมื่นบาท
จากนั้น ท่านพระครูปลัดอนันต์ นำทุกคนตั้งจิตอธิษฐานให้ปลาทุกชีวิต เมื่อปล่อยแล้วให้เป็นอิสระและปลอดภัย
แล้วจึงได้เคลื่อนขบวนไปปล่อยที่บริเวณป่าใหม่ หลังจากฉันภัตาหารเช้าเสร็จระหว่าง นั้นก็เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดลงชื่อในสมุดร่วมอวยพรแด่
ท่านพระครูปลัดอนันต์
ต่อมาเวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นกิจกรรมสุดท้ายที่ให้ตัวแทนคณะศิษย์แต่ละกลุ่มขึ้นพูดถึงความประทับใจที่มีในกิจกรรมครั้งนี้
ผู้ที่ถูกเชิญขึ้นกล่าวส่วนใหญ่เป็นศิษย์ที่ทัน พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ กันทั้งนั้น และต่างคนต่างก็ขึ้นกล่าวด้วยความรู้สึกจากเบื้องลึกของจิต
ทำให้ได้รู้ว่าทุกคนต่างก็มีความรักเคารพเทอดทูน ท่านพระครูปลัดอนันต์ และเชื่อมั่นศรัทธาในความสามารถปณิธานที่จะรักษาสืบสานต่องานของ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ และช่วยรักษาสมบัติที่ พ่อ ให้ไว้เป็นมรดกสืบทอดต่อกันไปได้แน่นอน
จากนั้นเป็นการขอขมากรรมและร่วมกันถวายกุศล พร้อมกับสรุปผลการถือปฏิบัติจากใบประเมินผลที่ทุกคนส่งคืนมา ตัวอย่างเช่น ศีล ๘ ผู้ปฏิบัติ ๓๘๑ คน
ผ่าน ๓๕๖ คน
จากนั้นจึงทำพิธีขอขมาพระรัตนตรัย ลาศีล ๘ และแถมพิเศษด้วยการร้องเพลงให้ ท่านพระครูปลัดอนันต์
ซึ่งลูกศิษย์แต่งร้อยเรียงเพลงนี้ให้เพื่อท่านโดยเฉพาะ
พระสงฆ์สวดชยันโต พระครูสมุห์พิชิต เป็นผู้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ท่านพระครูปลัดอนันต์ แจกหนังสือที่ระลึกให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เหลือร่วมลงชื่ออวยพร
จากนั้นรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับที่พักเข้าสู่วิถีชีวิตปกติของญาติโยมแต่ละท่านอีกครั้ง
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านพระครูปลัดอนันต์ พระผู้ร่วมจัดกิจกรรมทุกรูป ครูฝึกทุกท่าน พ่องานแม่งานทุกคน
เจ้าภาพอาหารเครื่องดื่ม อุบาสก อุบาสิกา ญาติธรรมทั้งหมด ที่ได้ช่วยกันรวบรวมความคิดเสียสละแรงใจแรงกายร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมงานบุญ
สร้างให้งานทั้งหมดเกิดขึ้นและจบลงด้วยความน่าประทับใจ
ด้วยกุศลผลบุญทั้งหมดที่เกิดขึ้นนอกจากจะถวายให้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ และ ท่านพระครูปลัดอนันต์ แล้ว
หากทุกท่านปรารถนาสิ่งใดที่เป็นสิ่งดีหากไม่เกินวิสัยและกฎของกรรมแล้ว ขอให้ทุกท่านได้สมในความปรารถนาเหล่านั้น ทุกอย่างทุกประการ
หากปรารถนาจะเดินเข้าสู่สายพระนิพพาน ก็ขอให้ท่านได้สมตามความปรารถนาที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้ในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ..
|
|
วันที่ ๓, ๔, ๕, ๖ และ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑
พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ และ พระสงฆ์ ๓ รูป มี พระใบฎีกาประทีป, พระละออง, พระมงคลเวทย์
เดินทางไปรับสังฆทานและฝึกมโน มยิทธิ ที่บ้านเลขที่ ๙ ซอยสายลม ๑ กรุงเทพ ฯ
วันที่ ๓ ต.ค. ฉันภัตตาหารเช้าแล้วออกเดินทางไปบ้าน พล. อ. อ. อาทร โรจนวิภาต เพื่อรับสังฆทาน เวลา ๑๑.๐๐ น. ฉันภัตตาหารเพล เวลา ๑๒.๐๐
น. เดินทางเข้าบ้านสายลม เวลา ๑๗.๐๐ น. พระครูปลัดอนันต์ ลงรับสังฆทานและสนทนากับญาติโยมพุทธบริษัท เวลา ๒๑.๐๐ น. ขึ้นพัก
วันที่ ๔ ต.ค. มีการฝึกมโนมยิทธิแบบครึ่งกำลัง ตั้งแต่เวลา ๑๒.๓๐ น. ถึง ๑๕.๐๐ น.
วันที่ ๔ ผู้ฝึกมโนมยิทธิขั้นต้น ๒๒๓ คน
ฝึกไปเห็นสภาวะพระนิพพานได้ ๑๘๗ คน
ผู้มาฝึกญาณ ๘ ๒๒๕ คน
ฝึกท่องเที่ยว ฯ - คน
รวมผู้มาฝึกมโนมยิทธิ ๔๔๘ คน
วันที่ ๕ ผู้ฝึกมโนมยิทธิขั้นต้น ๑๗๗ คน
ฝึกไปเห็นสภาวะพระนิพพานได้ ๑๓๖ คน
ผู้มาฝึกญาณ ๘ ๓๒๙ คน
ฝึกท่องเที่ยว ฯ - คน
รวมผู้มาฝึกมโนมยิทธิ ๕๐๖ คน
รวมผู้มาฝึกมโนมยิทธิทั้ง ๒ วัน ๙๕๔ คน
วันที่ ๕ ต.ค. เป็นวันทำบุญที่ระลึกวันคล้ายวันเกิดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ที่บ้านสายลม
เวลา ๐๘.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ ทำพิธีบวงสรวง เสร็จแล้ว พระครูปลัดอนันต์ และพระใบฎีกาประทีป
เมตตาประพรมนํ้าพระพุทธมนต์ให้บรรดาญาติโยมมากมายที่มาร่วมพิธี
 |  |
ท่านพระครูปลัดอนันต์ นำขอขมาต่อพระ รัตนตรัยและพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เสร็จแล้ว จึงเริ่มถวายสังฆทาน
ของที่ระลึกพิเศษแจกสำหรับผู้ร่วมทำ บุญถวายสังฆทาน มีล็อกเก็ตที่ระลึกครบรอบวันเกิดรูปพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ รุ่นใหม่ ๓
แบบและหนังสือคำสอนหลวงพ่อเล่มใหม่
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารแด่ พระสงฆ์
เวลา ๑๒.๐๐ น. พระครูปลัดอนันต์ ลงรับสังฆทานต่อ ญาติโยมก็ยังเข้าแถวยาวต่อเนื่อง เหมือนดังเช่นทุกปี
เพราะงานนี้ผู้มาทำบุญและทำสังฆทานจะได้รับของที่ระลึกงานครบรอบวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อ เป็นล็อกเก็ตชึ่งออกแบบ และสั่งทำพิเศษใหม่ประจำปี
ทำให้ผู้มาทำบุญจะได้เก็บล็อกเก็ตสวย ๆ เป็นที่ระลึกได้ทำบุญงานครบรอบ ฯ ระลึกนึกถึง พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ แล้ว ยังได้ล็อกเก็ตรูปหลวงพ่อสวย
ๆด้วย
ฉะนั้นพอถึงงาน วันทำบุญที่ระลึกวันคล้ายวันเกิดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ทุกปี ลูกศิษย์ลูกหลานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ
จึงตั้งใจมาทำบุญในวันนี้โดยเฉพาะ ทำให้แต่ละปีผู้มาทำบุญแน่นขนัด และเข้าแถวกันยาวเหยียดทุกปี.. เวลา ๑๕.๓๐ น. ขึ้นพัก
เจ้าภาพนำอาหารมาเลี้ยงในงานทำบุญที่วันทำบุญที่ระลึกวันคล้ายวันเกิดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ มากมายดังเช่นทุกปี จนจำกันไม่ไหว ทุกร้านอร่อย
เพราะคัดสรรอาหารดี รสเลิศมาเพื่องานครบรอบวันที่ระลึกวันคล้ายวันเกิด ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อโดยเฉพาะ เช่น คณะป่าละอู คณะเจมี่ ฯลฯ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านทุกคณะด้วย ขอให้ทุกคณะ รวย รวยๆๆ ..สมความปรารถนาทุกอย่างทุกประการ และหาก ปรารถพระนิพพานชาตินี้
ก็ขอให้ทุกท่านสมความปรารถนาด้วยเทอญ..สาธุ
วันที่ ๔, ๕ และ ๖ ต.ค. ช่วงเช้า เวลา ๐๙.๐๐ น. พระครูปลัดอนันต์ ลงรับสังฆทาน เวลา ๑๑.๐๐ น. พักฉันภัตตาหารเพล เวลา ๑๒.๐๐ น.
ลงรับสังฆทานต่อ เวลา ๑๕.๓๐ น. จึงขึ้นพัก
ตอนกลางคืน เวลา ๑๙.๐๐ น. เจริญ พระกรรมฐานแบบสุกขวิปัสสโก โดยเปิดวีดิทัศน์ คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ เวลา ๒๐.๐๐ น. ถวายสังฆทาน เวลา
๒๑.๐๐ น. ดร.ปริญญา นำสวด อิติปิ โส ทำนองสรภัญญะ และคาถาเงินล้าน จบแล้วอุทิศส่วนกุศล หลังจากนั้นพระครูปลัดอนันต์
จึงขึ้นพักเวลา ๓ ทุ่มครึ่ง
วันที่ ๗ ต.ค. ทำบุญที่ระลึกวันคล้ายวันเกิดของท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ
ที่บ้าน คุณเยาวลักษณ์ มิตรศรัทธา (ขวัญ) เป็นแม่งานเจ้าภาพหลักจัดงานทำบุญถวายกุศลเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของท่านพระครูปลัด อนันต์
ที่บ้านแม่ไม้เพลงไทยในกรุงเทพ ฯ
งานนี้ได้รับความเมตตาจาก หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ
ซึ่งคุณเยาวลักษณ์นิมนต์มาเป็นองค์ประธานในงานเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ และยังมีพระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร พระครูภาวนาภิลาศ (หลวงตาวัชรชัย )
และคณะสงฆ์จากวัดท่าซุง ญาติโยมที่คุ้นเคยใกล้ชิด รวมทั้งครูฝึกมโนมยิทธิจากบ้านสายลมมาร่วมงาน
เวลา๐๙.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ เริ่มทำพิธีบวงสรวง บูชาพระรัตนตรัยและพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ เวลา ๐๙.๓๐ น.
หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ เดินทางมาถึงบ้าน
ท่านพระครูปลัดอนันต์ กราบถวายพานธูปเทียนแพ ก่อนจะเข้านั่งประจำที่ให้คณะสงฆ์ทั้งหมดร่วมล้อมสวด
พระปริตร โดยมี หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นองค์ประธาน เจ้าภาพฝ่ายฆราวาสอาราธนาศีล พระครูสมุห์พิชิต
ฐิตวีโร ให้ศีล เจ้าภาพอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์สวดพระปริตร จากนั้น ท่านพระครูปลัดอนันต์
ถวายของที่ระลึกและเครื่องไทยทานแด่หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ
หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ให้โอวาทและประทานพรแล้วประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ท่านพระครูปลัดอนันต์
เจ้าภาพกล่าวนำถวายข้าวพระพุทธและภัตตาหารแด่พระสงฆ์ คณะสงฆ์แยกไปฉันภัตตาหารเพลก่อน
เจ้าภาพและฆราวาสกราบถวายจตุปัจจัย แด่หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ
ก่อนที่จะเสด็จเดินทางกลับ
เมื่อพระสงฆ์ฉันภัตตาหารแล้ว เจ้าภาพฝ่ายฆราวาสถวายของที่ระลึกแก่คณะพระสงฆ์ เสร็จแล้วอุทิศส่วนกุศลตามแบบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ พระสงฆ์ให้พร
ท่านพระครูปลัดอนันต์ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์
เวลา ๑๓.๐๐ น. เดินทางกลับวัดท่าซุง
วันที่ ๑๔ ต.ค. ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นวันออกพรรษา
ท่านพระครูปลัดอนันต์ ลงรับสังฆทาน ที่ศาลาพระพินิจฯ เวลาประมาณ ๐๗.๐๐ น. มีญาติโยมเดินทางมาที่วัดเป็นจำนวนมากจากทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
เพื่อทำบุญใส่บาตรและฟังธรรม
เวลา ๐๗.๔๐ น. ทายกเคาะระฆังให้ สัญญาณอาราธนาพระสงฆ์ทั้งหมดขึ้นอาสนสงฆ์ จากนั้นทายกกล่าวนำญาติโยมทั้งหมดกราบบูชาพระรัตนตรัยและอาราธนาศีล ๘
ท่านพระครูปลัดอนันต์ ให้ศีล จบแล้ว พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ทายกกล่าวนำญาติโยมทั้งหมดถวายภัตตาหารเช้าและร่วมกันประเคน
จากนั้นทายกนำกล่าวอาราธนาธรรมและรับฟังธรรมจากวีดิทัศน์ โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ เนื่องในวันออกพรรษา เสร็จแล้วพระสงฆ์ให้พรเป็นอันจบพิธี
วันที่ ๑๕ ต.ค. ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็นวันทำบุญตักบาตรเทโว ฯ
ญาติโยมมาเลือกซื้ออาหารขึ้นถวายทำบุญที่ศาลาพระพินิจ ฯ และจับจองที่ตั้งโต๊ะวางอาหารสำหรับตักบาตรเทโว ฯ รอบพระอุโบสถกันตั้งแต่เช้ามืด
ท่านพระครูปลัดอนันต์ ลงรับสังฆทานที่ศาลาพระพินิจฯ เวลา ๐๖.๐๐ น.
เวลา ๐๖.๓๐ น. ทายกกล่าวนำญาติโยมทั้งหมดบนศาลาพระพินิจ ฯ อาราธนาศีล ๕ ท่านพระครูปลัดอนันต์ ให้ศีล และเริ่มพิธีตักบาตรเทโว ฯ รอบพระอุโบสถ
 |  |
รถบุปผาชาติตกแต่งสวยงามอัญเชิญพระพุทธรูปเคลื่อนนำหน้าแถวขบวนพระสงฆ์ทั้งหมดจากหน้าประตูพระอุโบสถวนทักษิณาวัตร (เวียนขวา) รอบกำแพงแก้ว
ญาติโยมที่รอกันอยู่หนาแน่น ๒ ข้างทางรอบพระอุโบสถทยอยกันเข้าตักบาตรพระพุทธด้วยดอกไม้ ข้าวสาร น้ำตาล อาหารแห้ง และ จตุปัจจัย
พระสงฆ์เดินบิณฑบาตข้าวสาร น้ำตาล อาหารแห้ง ข้าวต้มลูกโยน ข้าวต้มมัด จตุปัจจัย เมื่อเดินครบรอบพระอุโบสถแล้วพระสงฆ์จึงเดินขึ้นศาลาพระพินิจ ฯ
จากนั้นทายกเคาะระฆังให้สัญญาณ อาราธนาพระสงฆ์ทั้งหมดขึ้นอาสน์สงฆ์ จากนั้นทายกกล่าวนำญาติโยมทั้งหมดกราบบูชาพระรัตนตรัย
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ทายกกล่าวนำญาติโยมทั้งหมดถวายภัตตาหารเช้าและร่วมกันประเคน จากนั้นทายกนำญาติโยมกล่าวอาราธนาธรรมและรับฟังธรรมจากวีดิทัศน์
โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ เรื่องต่อจากเมื่อวันออกพรรษา
เสร็จแล้วพระสงฆ์ให้พร จบพิธีด้วยความรวดเร็วเพื่อให้ญาติโยมเดินทางเข้าตัวเมืองอุทัยธานีเพื่อร่วมพิธีตักบาตร
เทโว ฯ ที่วัดสังกัสรัตนคีรี และชมงาช้างในเมืองอุทัยธานี ถ้าบ้านไหนร้านไหนมีงาช้างสวย ๆ ก็จะนำมาจัดโต๊ะหมู่
จัดสวนดอกไม้และนำงาช้างมาตั้งแสดงให้คนได้เดินชมทั่วตลาดเมืองอุทัยธานี ซึ่งมีให้ชมเป็นพิเศษเฉพาะงานวันออกพรรษาและวันงานตักบาตรเทโว ฯ เท่านั้น...
วันที่ ๑๘, ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๑ งานทำบุญทอดกฐินสามัคคีที่วัดท่าซุง
วันที่ ๑๘ ต.ค. เริ่มงานเวลา ๐๖.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุนถวายภัตตาหารเช้า (และภัตตาหารเพล) แด่พระสงฆ์ทั้งวัดที่สวนป่าไผ่
ส่วนที่ศาลา ๔ ไร่ เริ่มเลี้ยงอาหารญาติโยมที่มางานกฐินและเดินทางเข้าพักในอาคารที่พักต่าง ๆ ตั้งแต่เช้า
เจ้าภาพกองกฐินต่างทยอยกันเคลื่อนองค์กฐินเข้าสู่ศาลา ๑๒ ไร่ ตั้งแต่ช่วงกลางวัน องค์กฐินปีนี้นอกจากผ้าไตรจำนวนมากแล้วยังมีบริวารกฐินอีกมาก เช่น
พระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอกรวม ๘ องค์, พระพุทธรูปหน้าตัก ๓๐ นิ้ว รถบรรทุกเล็กสีขาวป้ายแดง ยี่ห้อ อีซูซุ รถจักรยานยนต์, ตู้เซฟ และเครื่องบริวารกฐินอีก
หลายอย่าง เห็นแล้วน่าชื่นใจมาก เป็นที่น่าสังเกตว่าพระพุทธรูป หน้าตัก ๔ ศอกมาถวายเป็นบริวารกฐินทุกปี คงเป็นเพราะว่ามาได้เห็นแล้วชื่นใจ
ปีต่อไปก็อยากจะสร้างถวายบ้าง
ขออนุโมทนากับเจ้าภาพทุกท่าน ทุกคณะด้วย สาธุ สาธุ สาธุ..
เจ้าภาพใหญ่หลายคณะ มีรายนามดังต่อไปนี้
๑. คุณเลอสรรค์ - คุณจุฑาวรรณ - คุณธนวินท์ โอฬารวัฒน์ ถวายพระ ๔ ศอก ๑ องค์
๒. พระพงศธร สุธมฺมเขมรโต ถวายพระ ๔ ศอก ๑ องค์
๓. คุณจำเนียร เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ถวายพระ ๔ ศอก ๑ องค์
๔. คุณสวัสดิ์ - คุณเตือนใจ สระตันศ์ และครอบครัว ถวายพระ ๔ ศอก ๑ องค์
๕. คุณพ่อสมโภช - คุณแม่ปุ๊ แต่แดง เพชร ถวายพระ ๔ ศอก ๑ องค์
๖. พลตรีปริญญา แต่แดงเพชร - คุณอรุณี แต่แดงเพชร ถวายพระ ๔ ศอก ๑ องค์
๗. คุณมิดดี้ ถวายพระ ๔ ศอก ๑ องค์
๘. คุณณรงค์ ไกลบ้าน ถวายพระ ๔ ศอก ๑ องค์
๙. คุณวรีสา คิดบรรจง และคณะรัตธ์ศิลป์, คุณปิราณี, คุณรันดา, คุณคัมภีร์วัฒน์ วิชชุวงค์ ถวายพระยืน ๑ องค์
๑๐. คุณอำนาจ - คุณนพภามาศ วงศ์สุวรรณ ถวายพระวิสุทธิเทพ ๑ องค์
๑๑. คุณนพรัตน์ อึ้งเลิกตระกูล ถวายพระยืน ๑ องค์
๑๒. คุณสุชัญญา (จู) และ คุณแพทอง ธาร (หลี) กุลจิราพัชร์ ถวายรถ SUZUKI แคลลี่ ใหม่ จำนวน ๑ คัน
๑๓. ด.ช.กฤตเมศ - คุณอภิวัฒน์ ปัจฉิมวัฒนพงศ์ ถวายกฐินวัดท่าซุง เป็นเงินจำนวน ๓๗๐,๐๐๐ บาท (สามแสนเจ็ดหมื่นบาท)
บริเวณรอบศาลา ๑๒ ไร่ ก็มีร้านค้าของวัดเปิดอำนวยความสะดวกให้ญาติโยมเข้าเลือก ซื้อสินค้า รวมทั้งร้านของวัดซึ่งให้บูชาวัถตุมงคล จำหน่ายเทป ซีดี
โปสเตอร์ หนังสือคำสอนของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ นิตยสารธัมมวิโมกข์ และหนังสือออกใหม่เล่มล่าสุด "สมบัติพ่อให้"
ซึ่งรวบรวมภาพรายละเอียดเหรียญและวัตถุมงคลต่าง ๆ ของวัดท่าซุง ปกอาบมันสีเขียว พิมพ์ ๔ สี ตลอดเล่ม และพิมพ์จำนวนไม่มาก คาดว่าจะจำหน่ายหมดภายในไม่ช้า
ภายในงาน ดร. ปริญญา นุตาลัย ทำหน้าที่พิธีกร โดยมีวงดนตรีมโหรีปี่พาทย์เครื่องสายของนักเรียนโรงเรียนพระ
สุธรรมยานเถระบรรเลงเพลงไพเราะให้ฟังเพลิดเพลินตลอดงาน
เวลา ๑๘.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ และ พระสงฆ์ ๓ รูป มี พระครูสังฆรักษ์สุรจิต พระครูใบฎีกาสมพงษ์ และ พระใบฎีกาประทีป
ลงรับสังฆทานที่ศาลา ๑๒ ไร่ ให้ญาติโยมได้ทยอยเข้าทำสังฆทานกัน
เวลา ๒๐.๐๐ น. เลิกรับสังฆทาน วงโยธวาทิตของนักเรียนโรงเรียน พระสุธรรมยานเถระวิทยา บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
วันที่ ๑๙ ต.ค. เป็นวันทอดกฐิน
เวลา ๐๖.๐๐ น.เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุนถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ทั้งวัดที่สวนป่าไผ่ ญาติโยมเริ่มทยอยมาที่วัดกันมากขึ้น หลายคนนำองค์กฐินมาร่วม
และหลายคนนำมาแต่จตุปัจจัยพร้อมจิตใจที่มุ่งมั่นสร้างบุญกฐินทานอย่างเต็มเปี่ยม
เวลา ๐๘.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ ทำพิธีบวงสรวง เสร็จแล้วรับสังฆทานที่หน้าพระประธาน พร้อมพระสงฆ์ ๒ รูป คือ พระครูใบฎีกาสมพงษ์
พระใบฎีกาประทีป ญาติโยมมากมาย ต่อแถวเข้าคิวรอถวายสังฆทานอย่างไม่ขาดสาย
จนเจ้าหน้าที่เร่งทำงานกันอย่างขะมักเขม้น แถวถวายสังฆทานชุดละ ๒,๐๐๐ บาท ยาวเหยียดมากเป็นพิเศษ ยาวกว่าแถวของสังฆทานชุดละ ๕๐๐ บาท
และยาวกว่าแถวของสังฆทานชุดละ ๑๐๐ บาทมาก ทั้งที่เศรษฐกิจไม่ดีอย่างนี้ แต่กำลังใจในการทำบุญของญาติโยมพุทธบริษัท เห็นแล้วน่าชื่นใจเป็นอย่างยิ่ง
ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง กับทุกท่านด้วย.สาธุ สาธุ สาธุ..
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์วัดท่าซุง ที่ใต้ถุนอาคารศาลา ๑๒ ไร่ ส่วนญาติโยมที่มาร่วมงานบุญก็ได้อิ่มบุญอิ่มท้องกันถ้วนหน้า
เพราะมีเจ้าภาพอาหารมากมายจัดอาหารรสอร่อยมาเลี้ยงไม่อั้น มีอาหารหลากชนิดตั้งแต่ เช้าตรู่ ที่ศาลา ๔ ไร่
ญาติโยมยังคงทยอยเดินทางเข้ามาที่ศาลา ๑๒ ไร่อย่างไม่ขาดช่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ ปริมาณรถในวัดหนาแน่น รถติดมากเป็นพิเศษ
แม้กระทั่งเริ่มทำพิธีถวายผ้ากฐินแล้ว ญาติโยมก็ยังเร่งเดินเข้ามาที่ศาลา ๑๒ ไร่ กันอย่างต่อเนื่อง
งานนี้นับว่าเป็นงานใหญ่อีกงานหนึ่ง ที่มีญาติโยมพุทธบริษัทให้ความสนใจเดินทางมาร่วมทำบุญกันมากมาย พื้นที่ศาลา ๑๒
ไร่ซึ่งโดยปกติจะกว้างขวางเหลือเฟือนั้น เหลือเพียงแค่ทางพอเดินผ่านด้านข้างได้เล็กน้อยเกือบจะไม่พอรองรับบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทที่มาร่วมงานทอดกฐิน
ผู้ที่มาค่อนข้างช้าเลยต้องนั่งอยู่เกือบริมประตูทางเข้าด้านหน้า
เวลา ๑๓.๐๐ น. เริ่มทำพิธีถวายผ้ากฐินทาน หลังกราบบูชาพระรัตนตรัยแล้ว คุณปรีชา พึ่งแสง เปิดวีดิทัศน์ เรื่องอานิสสงส์การถวายผ้ากฐินทาน
โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ จบแล้ว ดร. ปริญญา กล่าวนำอุบาสกอุบาสิกาอาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล ดร.
ปริญญากล่าวนำถวายผ้ากฐินทานและเครื่องบริวารกฐินทั้งหมด
จากนั้น ญาติโยมช่วยกันถวายผ้ากฐินแด่พระสงฆ์ทุกรูปในวัดท่าซุง อย่างนี้เรียกว่า มหากฐิน ซึ่งมีอานิสงส์สูงสุด คือมากกว่า ปกติกฐิน
ซึ่งถวายผ้าไตร ๑ ชุด หรือ ๓ ชุด มากกว่า จุลกฐิน ที่ถวายผ้าผืนใดผืนหนึ่งใน ๓ ผืน คนที่มาวัดท่าซุงกันมากทุกปี อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ก็ได้
เจ้าภาพบริวารกฐินถวายพระพุทธรูปและรถยนต์ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ดร.ปริญญา นำญาติโยมพุทธบริษัทอุทิศส่วนกุศล พระสงฆ์ให้พร ญาติโยมทยอยเดินทางกลับ
แต่ว่ามีบางส่วนยังคงเข้าถวายสังฆทานต่อจนถึงเวลา ๑๔.๐๐ น. จึงเลิก
เวลา ๑๗.๐๐ น. พระสงฆ์วัดท่าซุงทำพิธีกรานกฐินในพระอุโบสถ เมื่อกรานกฐินแล้ว พระสงฆ์ก็ได้รับอานิสงส์ ๕ ประการ
ญาติโยมก็ได้รับอานิสงส์ตามที่หลวงพ่อแนะนำไว้
ขอโมทนาแด่ญาติโยมพุทธบริษัททุกคน ที่มาร่วมงานทอดกฐินในปีนี้ และขอขอบคุณพระเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ฆราวาสที่ช่วยกันจัดงานนี้ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี
พรรษานี้ทำงานกันหนักจริง ๆ เพราะมีงานต่อเนื่องกันหลายงานตลอดพรรษา หนักยิ่งกว่าตอนนํ้าท่วมวัดเสียอีก ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง สาธุ สาธุ สาธุ...
แจ้งข่าว
วันที่ ๒๙, ๓๐ พ.ย. และ ๑, ๒ ธ.ค. ๒๕๕๑
พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ และพระสงฆ์ ๓ รูป เดินทางไปรับสังฆทาน และฝึกมโนมยิทธิที่บ้านเลขที่ ๙ ซอยสายลม ๑ กรุงเทพฯ
วันที่ ๒๙, ๓๐ พ.ย. มีการฝึกมโนมยิทธิ ตั้งแต่ เวลา ๑๒.๓๐ - ๑๕.๐๐ น.
โมทนา
เจ้าภาพนำอาหารมาเลี้ยงในผู้มาทำบุญ ในงานกตัญญูกตเวทิตามงคลท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ เมื่อวันที่ ๒๗, ๒๘ ก.ย. ๒๕๕๑ ที่ศาลา ๔ ไร่
มีรายละเอียดดังนี้
๑. ร้านเบเกอร์รี่วัดท่าซุง มูลค่า ๑๐,๐๐๐ บาท
๒. เสี่ยกวง เลี้ยงปาท่องโก๋ มูลค่า ๓,๐๐๐ บาท
๓. คณะวัดโพธิ์สุทธาวาสและพี่กี เลี้ยงข้าวโพดต้ม มูลค่า ๕,๐๐๐ บาท
๔. คณะวัดปากคลองปลากด เลี้ยงไข่หงษ์และข้าวเม่าทอด มูลค่า ๓,๕๐๐ บาท
๕. คณะหมอวิสูตร เลี้ยงก๋วยเตี๋ยว ๑๐,๐๐๐ บาท
๖. คณะเจ๊หงษ์ เลี้ยงกวยจั๊บ ๒๐,๐๐๐ บาท
๗. พระประทีปและคณะติ๊งต๊อง เลี้ยงกระเพาะปลา มูลค่า ๔,๐๐๐ บาท
๘. พระชลอ วัดศาลพันท้าย ฯ เลี้ยงหอยทอดและลอดช่อง มูลค่า ๔๖,๐๐๐ บาท
๙. คณะพี่น้องพระครูปลัดอนันต์ เลี้ยงบัวลอยไข่หวาน มูลค่า ๕,๐๐๐ บาท
๑๐. คณะลูกหมู เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวและผลไม้ มูลค่า ๒๕,๐๐๐ บาท
๑๑. คณะเสี่ยเจ็ง เลี้ยงอาหารหลายชนิด มูลค่า ๑๕,๐๐๐ บาท
๑๒. คณะลูกหลานพระครูปลัดอนันต์ เลี้ยงเฉาก๊วย มูลค่า ๒,๐๐๐ บาท
๑๓. ธนาคารกรุงไทย เลี้ยงขนมต้มญวน และน้ำดื่ม มูลค่า ๑,๘๐๐ บาท
๑๔. คณะศิษย์โคราช ถวายผลไม้เข้าโรงครัววัด มูลค่า ๒,๐๐๐ บาท
๑๕. คณะป่าละอู เลี้ยงอาหาร ผลไม้และน้ำดื่ม มูลค่า ๖๕,๐๐๐ บาท
๑๖. เมืองไทยประกันชีวิต เลี้ยงอาหาร มูลค่า ๕,๘๐๐ บาท
๑๗. คุณปุ้ยและคณะ เลี้ยงโจ๊กหมู ๕,๘๐๐ บาท
๑๘. ศูนย์ปฏิบัติธรรมพระราชพรหมยานโคราช เลี้ยงลูกชิ้นนึ่ง มูลค่า ๒๐,๐๐๐ บาท
๑๙. บริษัท สปีดเพลส เลี้ยงอาหารเจและน้ำผลไม้ มูลค่า ๖๐,๐๐๐ บาท
๒๐. คณะแม่ชีประยวน เลี้ยงไอศครีม ๙,๐๐๐ บาท
๒๑. คณะหลวงพี่โอ เลี้ยงก๋วเตี๋ยวหมูตุ๋น มูลค่า ๑๒,๐๐๐ บาท
๒๒. คณะลูกหลานหลวงพ่อชาวพิจิตร เลี้ยงข้าวต้มเครื่อง มูลค่า ๒๐,๐๐๐ บาท
๒๓. คณะคุณอ๊อด เลี้ยงกล้วยทอด ๑๒,๐๐๐ บาท
๒๔. คณะหลวงพี่วิรัช ถวายกล้วย ส้ม มูลค่า ๔,๐๐๐ บาท
๒๕. คณะชัยนาท เลี้ยงขนมปังปิ้ง ๓,๐๐๐ บาท
๒๖. คณะคุณสุเทพ เลี้ยงน้ำสมุนไพร
๒๗. คณะแม่จำเนียร เลี้ยงข้าวต้ม
๒๘. ลุงเต่า เลี้ยงโอเลี้ยง
เจ้าภาพอาหารมาเลี้ยงในงานกตัญญูกต-เวทิตามงคลท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ในระหว่างบวชถือศีล ๘ และกรรมบถ เมื่อวันที่ ๒๙-๓๐ ก.ย. ที่ศาลา ๑๒ ไร่
มีรายละเอียดดังนี้
๑. คุณวิชชุดา ชัยกูล, ครอบครัว และคณะ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ใน วันที่ ๒๙ ก.ย. เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๒. คุณวิชชุดา ชัยกูล, ครอบครัว และคณะ ถวายเงินทำพิซซ่า, แซนวิสทูน่า, แซนวิส แฮม, แซนวิสปูอัด และสลัดผัก มาร่วมเลี้ยงผู้มารักษาศีล ๘
และกรรมบถ ในวันที่ ๒๙-๓๐ ก.ย. เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๓. Mr.Shake โดย คุณสุขขา อ่อนจิต และ คุณกรกมล ชูชัยศรี เป็นเจ้าภาพเลี้ยงภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ในวันที่ ๓๐ ก.ย. (ไม่ทราบมูลค่า)
ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
เจ้าภาพนำอาหารมาเลี้ยงใน งานทำบุญทอดกฐิน ที่ศาลา ๔ ไร่ เมื่อวันที่ ๑๘, ๑๙ ต.ค. ๒๕๕๑ ที่ศาลา ๔ ไร่ มีรายละเอียดดังนี้
๑. คณะคุณเปิ้ล เลี้ยงข้าวผัดกระเพรา และน้ำอัดลม มูลค่า ๒๕,๐๐๐ บาท
๒. คณะคุณเล็กพัทยา เลี้ยงขนมหวาน มูลค่า ๕๐,๐๐๐ บาท
๓. คณะพระชลอ วัดศาลพันท้าย นรสิงห์ฯ เลี้ยงหอยทอดและลอดช่อง มูลค่า ๕๗,๐๐๐ บาท
๔. คณะลูกลุงเพ็ชร เลี้ยงข้าวผัดกระเพรา, ไข่เจียว และน้ำอัดลม มูลค่า ๔๒,๐๐๐ บาท
๕. บริษัทสปีดเพรสและคณะรวมใจ เลี้ยงอาหาร และเครื่องดื่มหลายอย่าง มูลค่า ๗๐,๐๐๐ บาท
๖. คณะคุณสุนันทา หวานฉํ่า เลี้ยงขนมสลิ่ม มูลค่า ๔,๐๐๐ บาท
๗. คณะคุณอำพันธุ์ ชูประสิทธิ์ เลี้ยงขนมไทย มูลค่า ๒๕,๐๐๐ บาท
๘. คณะคุณชม เลี้ยงผัดไทย มูลค่า ๑๐,๐๐๐ บาท
๙. คณะทัยศิริ เลี้ยงนํ้าผลไม้ มูลค่า ๑๕,๐๐๐ บาท
๑๐. ครอบครัวศรีบุญญรักษ์ เลี้ยงข้าวหเนียว หมูทอด มูลค่า ๙,๐๐๐ บาท
๑๑. คณะคุณสมาน เกตุสุวรรณ เลี้ยงก๋วยเตี๋ยว,ขนมหวานและเครื่องดื่ม มูลค่า ๑๒,๐๐๐บาท
๑๒. คุณชาลีบอย เลี้ยงส้มตำ มูลค่า ๕,๐๐๐บาท
๑๓. คณะคุณอ๊อด เลี้ยงกล้วยทอด มูลค่า ๑๐,๐๐๐ บาท
๑๔. คณะแม่ชีพยวน เลี้ยงไอศศรีม มูลค่า ๔,๐๐๐ บาท
๑๕. คณะปลาร้าโคราช เลี้ยงส้มตำ
๑๖. คณะเฮียกวง เลี้ยงปาท่องโก๋ มูลค่า ๒,๐๐๐ บาท
๑๗. คุณสัญญา แสงระยับ เลี้ยงผลไม้ มูลค่า ๔๐,๐๐๐บาท
๑๘. คณะคุณสำรวย เลี้ยงก๋วยเตี๋ยว มูลค่า ๖๐,๐๐๐บาท
๑๙. คณะบุญดอกบัวเมืองแก้ว เลี้ยงผัดไทยวุ้นเส้น มูลค่า ๑๔,๐๐๐ บาท
๒๐. คณะคุณชัย เลี้ยงลอดช่อง มูลค่า ๔,๒๐๐ บาท
๒๑. คณะชาวเมืองกาญจน์ (ห้างกนกกาญจน์) เลี้ยงสลัด และเผือกทอด มูลค่า ๑๑,๐๐๐บาท
๒๒. คณะคุณเรณู จันทนา เลี้ยงไอศครีม มูลค่า ๒,๕๐๐บาท
๒๓. บริษัท แคช แอนด์ แครี่ เน็ตเวิร์ค จำกัด, บริษัท แคช แอนด์ เน็ตเวิร์ค จำกัดเลี้ยงข้าวมันไก่
มูลค่า ๑๐,๐๐๐ บาท
๒๔. คณะคุณสุเทพ เลี้ยงน้ำสมุนไพร
๒๕. อาจารย์ก๋อยและคณะ เลี้ยงก๋วยจั๊บ มูลค่า ๕,๐๐๐ บาท
๒๖. คณะพระประแดง เลี้ยงข้าวต้มมัด มูลค่า ๑,๕๐๐ บาท
๒๗. คณะช่างโจ๋ ชัยนาท เลี้ยงขนมปังปิ้ง มูลค่า ๓,๕๐๐ บาท
โมทนา
๑. คุณสัจจะ ทันการ, คุณกรรณิการ์ การเดช, คุณหยกเพชร จันทวัน , คุณนฤมล นินบดี ถวายอาหาร และยารักษาโรคสำหรับสุนัข รอบ วัด
ประจำเดือนตุลาคม เป็นเงิน ๑๗,๖๐๐ บาท ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๒. คุณศิริวัฒนา บัญชรเทวกุล (แต๋ว) และครอบครัว นำเครื่องดื่มมาเลี้ยงคณะครูฝึกที่บ้านสายลม ในวันเสาร์และวันอาทิตย์
ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๓. คุณพรพรรณ เลิศลํ้า (ต๋อย) และคณะนำดอกไม้มาให้ผู้ฝึกใหม่บูชาครูในการฝึกมโนมยิทธิ ที่บ้านสายลม เดือนตุลาคม
ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๔. ร้านกองทุน เลี้ยงพระที่สวนไผ่ เมื่อ วันที่ ๑๘, ๑๙ ก.ค. มีญาติโยมจากบ้านสายลมร่วมทำบุญ ๑๐๐,๔๐๐ บาท ญาติโยมที่วัดท่าซุง ร่วม ทำบุญ
๕๔,๑๐๐ บาท หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเงิน ๑๔,๐๗๐ บาท สมทบทุนกองทุนหลวงพ่อปาน ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๕. คุณสุธี สุวรรณทัต และคณะ ถวายขนมเลี้ยงอาหารพระ วันที่ ๑๘-๑๙ ต.ค. เป็นเงิน ๔,๑๐๐ บาท
ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๖. คุณลัดดา เบญโชติเดช บ. สปีดเพรส ร่วมทำบุญเลี้ยงพระ เป็นเงิน ๔,๐๐๐ บาท ขออนุโมทนาเป็น
อย่างสูง
๗. คุณธีรชัย - คุณยุพร - คุณจิตรลดา เอื้อชลิตนุกูล ถวายอาหารเลี้ยงพระ วันที่ ๑๗-๑๘ ต.ค. เป็นเงิน ๒,๘๘๗ บาท ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๘. คุณเจมี่ และคณะลูกศิษย์หลวงพ่อ เลี้ยงข้าวเกรียบปากหม้อ มูลค่า ๓,๔๐๐ บาท ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๙. คุณวิชชุดา ชัยกูล (แอน) ครอบครัว และคณะ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ในงานกตัญญูกตเวทิตามงคลท่านพระครูปลัดอนันต์
ในวันที่ ๒๙ ก.ย. ๒๕๕๑ เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท
คุณวิชชุดา ชัยกูล (แอน) ครอบครัว และคณะ ถวายเงินทำพิซซ่า, แซนวิสทูน่า, แซน วิสแฮม, แซนวิสปูอัด และสลัดผัก มาร่วมเลี้ยงผู้ มารักษาศีล
๘ กรรมบถ ในงานกตัญญูกตเวทิตา-มงคลท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ในวันที่ ๒๙-๓๐ ก.ย.๒๕๕๑ เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท
คุณวิชชุดา ชัยกูล (แอน) ครอบครัว และคณะ ถวายภัตตาหารพระ และนำก๋วยเตี๋ยวไก่, ข้าวกล่อง, ยำผักและผลไม้, แซนวิส, ขนม ถั่วแปบ, ข้าวโพดคลุก,
ข้าวโพดต้ม, ขนมหวาน, ข้าวต้มมัด ข้าวหลาม และกาแฟ มาเลี้ยงผู้มา รักษาศีลช่วงเข้าพรรษาที่โรงทานวัด ตั้งแต่วันที่ ๖ - ๑๖ ต.ค. ๒๕๕๑ รวมเป็นเวลา ๑๑
วัน
ทั้ง ๓ รายการ มีผู้ร่วมบุญซึ่งเป็นครอบครัว และเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มีรายนามดังต่อไปนี้
คุณวิชชุดา ชัยกูล ครอบครัว,คณะ ๖,๕๓๕ บาท
แม่ชีทัศนีย์ อาจบุตร (แม่ชีแต๋ว) ๕,๐๐๐ บาท
คุณธัชกร ศิลปเทพ (นกยูง) ๑,๘๐๐ บาท
คุณศักรินทร์ ประภาสรัตน์ (ตู้) ๑,๒๒๕ บาท
คุณสิริพันธุ์ พงษ์วิทยานุกฤต (จิ๋ม) ๑,๒๐๐ บาท
ร้าน Thai Basil คุณกัมปนาท ฤกษ์ภูริทัต,คุณช่อทิพย์ วงศ์พยัคฆ์ (น้องกิ๊ฟ) ๑,๐๐๐ บาท
คุณไตรดาว โรจนุตมะ (น้องเอิร์ท) ๑,๐๐๐ บาท
คุณธนกร เจียกขจร (ปลา) ๑,๐๐๐ บาท
คุณยุวดี อํ่าประยูร (แห้ว) ๗๐๐ บาท
คุณกฤษฌานะ กรีกุล (ไอซ์) ๖๐๐ บาท
คุณยชนา สันศี (แจ๊ค) ๔๐๐ บาท
คุณปราณี มาดหมาย (กุ๊ก) ๓๐๐ บาท
คุณป้าวรรณวิไล, กรรณิการ์, ธนัชกฤศ ๕๐๐ บาท
คุณศิริพร, คุณเจษพร, คุณป้าน้อย ๓๐๐ บาท
ร่วมทำบุญจากประเทศเยอรมัน มีรายนาม ดังต่อไปนี้
พระอาจินต์ ธมฺมจิตฺโต ๖,๐๐๐ บาท
พระธีระ สุธมฺมปริปุณฺโณ ๑,๐๐๐ บาท
คุณศิริพร (แมว) เมือง Manching ๖,๙๔๐ บาท
คุณแม่ของคุณศิริพร ๑,๐๐๐ บาท
ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
|
|
|
![[*]](./images/corporate/default_icon.gif){kind=icon}
posted on 30/10/08 at 08:53
