Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 29/4/08 at 16:16 [ QUOTE ]

บทวิเคราะห์ "พระเจ้าตากสิน" สวรรคตเพราะเหตุใด? (ตอนที่ 5)






จากผู้ที่โพสในเว็บ

www.vcharkarn.com/vcafe/4907


ความเห็นเพิ่มเติมที่ 40 27 ก.ย. 2549 (05:00)

หากเชื่อ "พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์" สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ก็เสด็จสวรรคตเพราะทรงถูกสำเร็จโทษ เมื่อผลัดราชวงศ์

หากเชื่อหนังสือ "ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน" ของภิกษุณีวรมัย กบิลสิงห์ ที่กล่าวว่าท่านได้ติดต่อทางวิญญาณกับดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ก็เสด็จไปประทับที่นครศรีธรรมราช จนสวรรคต

เท็จจริงอย่างไรผมไม่อาจหยั่งทราบได้

แต่...ขอเรียนตามตรงจากความรู้สึกส่วนตัว ว่าการกล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงร่วมกันสร้างอุบายเพื่อ "หนีหนี้" ที่ติดค้างกับทางเมืองจีน โดยให้สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ เสด็จหนีไปอยู่เมืองนคร ตามที่กล่าวไว้ในหนังสือใครฆ่าพระเจ้าตากสินนั้น

ผมเห็นว่าไม่เป็นพระเกียรติยศแก่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์สักเท่าไรนัก

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เห็นด้วยกับคุณ UP ค่ะ
ดิฉันไม่เชื่อเรื่องที่ภิกษุณีวรมัยเขียนว่าเป็นเรื่องจริง ดิฉันเห็นว่าเป็นนิยายมากกว่า

"เทาชมพู"

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ความเห็นเพิ่มเติมที่ 44 27 ก.ย. 2549 (21:27)

พงศาวดารรัตนโกสินทร์ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ที่เขียนขึ้นสมัยร.๔ ก็เขียนไว้ชัดเจน พอที่จะไม่ต้องมาข้องใจกับเรื่องนี้อีก

จะโทษแม่ชีวรมัยคนเดียวผมว่าก็ไม่ยุติธรรม เพราะคนที่ทำให้เรื่องนี้แพร่หลายคือหลวงวิจิตรวาทการ

การชิงอำนาจเป็นกลไกปกติของระบอบราชาธิปไตย ไม่ได้ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติตรงไหน

ส่วนเรื่องหนีหนี้ ไม่ว่ายุคสมัยใด ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี

สร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมา คิดกันได้ยังไงก็ไม่รู้

ไม่สมเหตุสมผลไม่ว่ามองในแง่มุมใด

CrazyHOrse

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุณหลวงวิจิตรวาทการ เขียนเรื่อง "ใครฆ่าพระเจ้ากรุงธน" เป็นเรื่องสั้นนะคะ ไม่ใช่สารคดีประวัติศาสตร์ มีไว้อ่านเล่น เอามายึดถือเป็นข้อเท็จจริงไม่ได้

เนื้อหาที่คุณหลวงเขียน ก็คือแทรกจินตนาการเข้าไปในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ว่า ขณะที่คนทั่วไปเข้าใจว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินฯถูกประหาร ที่จริงเปล่า

มีขุนนางที่ภักดีลอบสับเปลี่ยนตัว พาท่านหนีไปทางใต้ได้สำเร็จ ส่วนตัวปลอมก็ยอมตายแทน

เนื้อหาแบบนี้เข้าใจว่าคุณหลวงวิจิตรฯ อาจจะได้แนวมาจากนิยายฝรั่งประเภทตื่นเต้นโลดโผนผจญภัย พระเอกพาตัวละครสำคัญหนีจากที่คุมขัง มีการสับเปลี่ยนตัว ปลอมตัวเป็นคนสำคัญ ฯลฯ พล็อตแบบนี้ใครเคยอ่าน The Prisoner of Zenda ของ Sir Anthony Hope หรือ Etienne Gerard ของ Sir Arthur Conan Doyle ก็จะรู้สึกว่าไม่แปลกอะไรเลย

แต่เรื่องที่ว่าสมเด็จพระเจ้าตากฯและสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ สมคบกันสร้างละครหลอกลวงฮ่องเต้จีนเพื่อหนีหนี้ที่ไปกู้มา อันเป็นเรื่องเสื่อมเสียพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นนักรบทั้งสองพระองค์ คุณหลวงวิจิตรฯไม่ได้เขียน ใครควรรับคะแนนไปทั้งหมดแต่ผู้เดียว ก็คงไม่ต้องบอกกันค่ะ

"เทาชมพู"

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จากผู้ที่โพสในเว็บ

www.pantown.com/board.php?id=14227&name=board1&topic=19&action=view


ความคิดเห็นที่ 280

*พระเจ้าตากจะสิ้นพระชนม์เพราะอะไร วิปลาสจริงมั๊ย หรือ เป็นพระไปบำเพ็ญเพียรจนสิ้นในสมณะเพศ....

*ร.1 ทรงมีส่วนร่วมในการให้คนพาพระเจ้าตากไปที่นครศรีธรรมราช และบำเพ็ญกรรมฐานที่วัดเขาขุนพนม ซึ่งพระผู้ใหญ่มีสมณะศักดิ์บางองค์ยังบอกว่าจริง มีอัฏฐบริขารอยู่และเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัด จริงหรือ...

ตอนนี้กำลังเป็นข้อถกเถียงและค้นคว้าหาความจริงของนักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ดัง ๆ หลายคนอยู่ เข้าใจว่า ความลับมืดดำนี้ น่าจะเปิดเผยได้ หน้าประวัติศาสตร์อาจเปลี่ยน

*หรืออาจเป็นไปได้ที่ราชสกุลบางวงศ์ ที่มีลูกหลานเป็นนักเขียนดัง เช่น จุลลดา ภักดีภูมินทร์ กำลังนำเรื่องเล่าตกทอดมาเขียน เพื่อลบรอยมลทินจากประวัติศาสตร์ ที่ว่า ร. 1 ประหาร และขึ้นครองราชย์แทน ก็เป็นไปได้หมด....คงต้องรอแต่ไม่รู้ยุคไหนจึงจะรู้ของจริง........

**แต่ที่รับไม่ได้ และไม่เชื่อคือเรื่องที่ว่า ท่านหนีหนี้ ฟังแล้วปวดใจจริง พูดออกมาได้ยังไง เหตุผลอ่อนที่สุดกว่าทุกกรณี สมัยนั้นกษัตริย์เป็นเจ้าชีวิต อยากทำอะไรใครก็ได้ (ทำไมต้องหนี)

**อีกอย่างท่านเป็นนักรบเก่งขนาดมีทหารแค่หยิบมือยังฝ่าด่านออกมา รวมแผ่นดินได้ กลัวเรื่องหนี้ด้วยหรือ

**แต่เอาเถอะ ใครจะว่าอะไร ก็มีสิทธิ์คิด เพราะเหตุการณ์ผ่านมานานมาก..แต่อยากขอให้พวกเราลูกหลานที่อยู่บนแผ่นดิน ที่ทรงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย รวมกลับให้ถึงพวกเรา..จำไว้อย่างเดียวว่า..........

****ถ้าไม่มี คนชื่อพระยาตาก....คงไม่มีแผ่นดินไทยให้พวกบ้าอำนาจหลายฝูงมาถลุงกันเช่นทุกวันนี้... พวกเราก็คงไปเป็นชนกลุ่มน้อย อาศัยแผ่นดินใครเขาอยู่ไม่รู้...

**มหาราช บูรพกษัตริย์ที่ทรงคุณมหาศาลต่อแผ่นดิน ที่ควรเทิดทูนชั่วลูกหลานมีหลายพระองค์

**แต่องค์ที่เป็นยิ่งกว่า คำว่า มหาราช ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ยอมยกให้สุดยอด 2 องค์ คือ พระนเรศวรมหาราช กับ พระเจ้าตากสินมหาราช เพราะ ทรงรวบรวม และกู้แผ่นดินขึ้นมา.....จากศูนย์

โดย: MONTHATIP_OPAS@HOTMAILCOM [23 ส.ค. 50 1:07] ( IP A:58.8.117.182 X: )

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ส่วนเมืองนครศรีธรรมราชมีตำนานเล่ากันว่า เมื่อสิ้นรัชกาลแล้ว สมเด็จพระเจ้าตากสินได้หลบมาบวชและพำนักอยู่ที่นครศรีธรรมราช ที่ประทับได้แก่ ที่อำเภอลานสกา และที่อำเภอเมือง ปัจจุบันเล่ากันว่า ที่อำเภอลานสกาเป็นที่ซึ่งพระองค์ได้แวะพักระหว่างที่เสด็จมายังเมืองนครฯ ส่วนที่ประทับถาวรก็คือ วัดเขาขุนพนม ในเขตอำเภอเมือง

นอกจากนี้ เรื่องเล่ากันในหมู่สมาชิกตระกูล "ณ นคร" บางกลุ่มในปัจจุบัน บอกว่าหลังจากที่พระเจ้าตากสินทรงผนวชที่วัดเขาขุนพนมระยะหนึ่งแล้ว ก็ได้ประชวรด้วยพระโรคอย่างหนึ่ง (บ้างว่าวัณโรค) จึงจำเป็นต้องทรงลาผนวช (สึก) แล้วเสด็จไปประทับอยู่ในจวนของเจ้าพระยานคร (น้อย) ในสมัยรัชกาลที่ ๓

มีการอ้างด้วยว่า เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จสวรรคตแล้ว ได้มีใบบอกเข้าไปแจ้งรัฐบาลในกรุงเทพฯ ว่า "ท่านข้างใน" สิ้นแล้ว ส่วนพระบรมศพนั้นก็ได้ไปตั้งทำการพระเมรุที่ชายทะเลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ มีการอ้างถึง "หลักฐาน" เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของเรื่องนี้อีกว่า ที่วัดแจ้งและวัดประดู่ซึ่งมีเก๋งไว้อัฐิของเจ้านคร (หนู) หม่อมทองเหนี่ยวชายา และของเจ้าพระยานคร (น้อย) นั้น มีศิลาจารึกภาษาจีนอยู่ ๓-๔ หลัก หนึ่งในนี้มีผู้อ้างว่า มีข้อความกล่าวถึงว่าเป็นหลุมศพของ "ผู้เป็นใหญ่แซ่เจิ้ง"

(พระบิดาของสมเด็จพระเจ้าตากสินแซ่เจิ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินจึงทรงใช้แซ่เจิ้งด้วย (สำเนียงแต้จิ๋วเรียก "แต้") เรื่องนี้เป็นความจริงเพราะมีหลักฐานชั้นต้นยืนยันจำนวนมาก รวมทั้งพระราชสาส์นของพระเจ้าตากสินที่ทรงมีถึงพระเจ้ากรุงจีนก็ใช้ "แซ่เจิ้ง")

จากหลักฐานชิ้นนี้เองที่อาจารย์นิธิ (ศาสตราจารย์ ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์) ได้ถ่ายภาพจารึกภาษาจีนที่สถูปและนำไปให้อาจารย์กรรณิการ์ ติยายน และอาจารย์สกุลหงส์ สกุลธนะพาณิชย์ แห่งแผนกภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ่านจารึกแล้ว ได้ความว่า

"ศักราชเฉียนหลุง (ซึ่งเมื่อสอบทานแล้วเป็นปี ค.ศ. ๑๗๕๖ หรือ พ.ศ. ๒๒๙๙) หลุมศพอุดมสมบูรณ์ของท่านเจิ้ง (เจิ้งกง) พ่อที่ตายลูกชายชื่อเหวินหยิ่ง, เหวินไฉ่ร่วมสร้าง"

ทั้งนี้ คำว่า "ท่านเจิ้ง" หรือ "เจิ้งกง" นั้น มีคำอธิบายว่า "กง" เป็นคำยกย่อง ใช้เรียกผู้อาวุโสเช่นบรรดาศักดิ์



ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ กล่าวถึงวาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินมหาราชไว้ในหนังสือ?การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี? ว่า

( พระพุทธยอดฟ้าฯ) จึงมีรับสั่งให้เอาไปประหารชีวิตสำเร็จโทษเสีย เพชฌฆาตกับผู้คุม ก็ลากเอาตัวขึ้นแคร่หามไปกับทั้งสังขลิกพันธนาการ เจ้าตากสินจึงว่าแก่ผู้คุมเพชฌฆาตว่า ตัวเราก็สิ้นบุญจะถึงที่ตายแล้ว ช่วยพาเราแวะเข้าไปหาท่านผู้สำเร็จราชการ จะขอเจรจาด้วยสักสองสามคำ

ผู้คุมก็ให้หามเข้ามา ครั้น ( พระพุทธยอดฟ้าฯ)ได้ทอดพระเนตร จึ่งโบกพระหัตถ์มิให้นำมาเฝ้า ผู้คุมแลเพชฌฆาตก็ให้หามออกไปนอกพระราชวัง ถึงหน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ ก็ประหารชีวิตตัดศีรษะเสีย ถึงแก่พิราลัย จึ่งรับสั่งให้เอาศพไปฝัง ณ วัดบางยี่เรือใต้"



ขณะที่ปรีดา ศรีชลาลัย กล่าวถึงวาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินฯ ไว้ในบทความเรื่อง"ปีสุดท้ายของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 ประจำเดือนธันวาคม 2524 ว่า

"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชถูกปลงพระชนม์ ณ พระวิหารที่ประทับในวัดแจ้ง (คือวัดอรุณราชวราราม ปัจจุบันนี้) รวมวันตั้งแต่เสด็จออกทรงผนวชจนถึงวันถูกปลงพระชนม์ เป็น 28 วัน

โหรจดไว้ว่าดับขันธ์ ไม่ใช้คำว่าสิ้นพระชนม์ หรือสวรรคต ก็เพื่อยืนยันว่า พระองค์ท่านถูกปลงพระชนม์ทั้งที่ทรงเพศเป็นพระภิกษุ จึงใช้คำว่าดับขันธ์ เพื่อให้เข้าใจว่ามิได้สวรรคตเมื่อลาผนวชออกมา ความจริงพระองค์ดำรงสมณเพศจนตลอดพระชนม์ชีพ

เมื่อการปลงพระชนม์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เชิญพระศพไปฝังไว้ที่วัดอินทาราม บางยี่เรือ ใกล้ตลาดพลู คลองบางหลวง (เวลานั้นยังเรียกวัดบางยี่เรือ)"

บรรดาศพข้าราชการที่จงรักภักดีในพระองค์ มีเจ้าพระยานครราชสีมา (บุญคง ต้นสกุลกาญจนาคม) พระยาสรรค์ (บรรพบุรุษสกุลแพ่งสภา) พระยารามัญวงศ์ (ต้นสกุลศรีเพ็ญ) พระยาพิชัยดาบหัก (ทองดี ต้นสกุลวิชัยขัทคะ และพิชัยกุล) เป็นต้น จำนวนมากกว่า 50 นาย ก็ถูกฝังเรียงรายใกล้พระศพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนั้น

ฝ่ายพระราชวงศ์ของพระเจ้าตากสินที่ยังเหลือ ถ้าเป็นเจ้าชายชั้นทรงพระเจริญวัยก็ถูกจับปลงพระชนม์หมด เอาไว้แต่ที่ทรงพระเยาว์ และเจ้าหญิง ถอดพระยศออกแล้วเรียกว่าหม่อม เหมือนกันทุกพระองค์ แม้จนกระทั่งสมเด็จพระราชินี และสมเด็จพระน้านาง เป็นการถอดอย่างที่ไม่เคยมีมา

ฝ่ายเจ้าพระยาอินทวงศา อัครมหาเสนาธิบดีฝ่ายกลาโหม ขณะนั้นตั้งวังปราบบัญชาการทัพอยู่ที่ปากพระ ใกล้เมืองถลาง ทราบว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินฯถูกปลงพระชนม์แล้ว ก็ฆ่าตัวตายตามเสด็จ เพราะไม่ยอมเป็นข้าคนอื่น

ส่วนความเกี่ยวข้องกับญวนตามสัญญาลับ ไทยต้องช่วยญวนต่อรบกับพวกราชวงศ์เล้ (ที่เรียกพวกกบฎไตเซิน) 2 ครั้ง และช่วยอาวุธยุทธภัณฑ์อีกนับไม่ถ้วน ผลสุดท้ายเมื่อญวนกลับตั้งราชวงศ์องเชียงสือสำเร็จ มีอำนาจใหญ่โตขึ้น ไทยต้องเสียเมืองพุทไธมาศแก่ญวน

(ดูพงศาวดาร ฉบับนายหยง แปล เล่ม 2 หน้า 394, 419)

โปรดติดตาม ในตอนต่อไป (หากไม่ถูกจับ"ตอน"เสียก่อน)

พอดีไปอ่านเจอเลยนำมาฝากกันนะครับ

โดย: ศรัทธาในความจริง [3 ต.ค. 51] ( IP A:222.123.201.82 X: )


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 448

ยังไงก็ขอต่อให้จบนะครับ

ความเป็นจริงพระเจ้าตากมิได้ทรงพระสัญญา (สติ) วิปลาสฟั่นเฟือน เป็นเพียงข้อกล่าวหาเพื่อสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจ พระเจ้าตากสินมหาราชทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาต่างหาก มิได้ถูกบังคับหรือร้องขอ (นี้คือข้อเท็จจริง)

พระองค์ทรงวางพระทัยในผู้ใกล้ชิด มิได้ทรงระแวงเหตุร้ายที่ถูกวางแผนไว้นานกว่าขวบปี การภายใน ให้ นายบุนนาค, หลวงสุระ,หลวงชะนะ เป็นผู้ยุยงตัวสำคัญ ซึ่งแอบขึ้นไปตั้งทำการ ยุยงที่กรุงเก่า

การภายนอกให้ เขมร และ ญวน ตีโอบแม่ทัพใหญ่(คือขุนอิน) จับตัวขุนอินฯสำเร็จโทษเสียที่นอกเมือง ยกทัพหัวเมืองจากสามทางเข้าโอบตี ยึดเมืองหลวงไว้

สัญญาลับการกบฏที่มีต่อเขมร และญวนคือการส่งกำลังตอบแทนสองครั้ง และคำสัญญา ไม่กำหราบ เจ้าเขมร ให้ย่อยยับดังคำสั่งเหนือหัว พระองค์ทรงวางพระทัย เพราะสิ่งที่สั่งไว้ก่อนทรงผนวช ล้วนส่งคุณต่อลูกหลานเจ้าพระยาจักรี โดยไม่คาดคิดว่ามีผู้มักใหญ่ใฝ่สูง คิดยึดอำนาจไปเป็นของตัว โดยศักดิ์ พระเจ้าตากคือลูกเขย เจ้าฟ้าเหม็น เป็นหลานตา ในเจ้าพระยาจักรี กรุงธนบุรี พระเจ้าตากคิกการณ์ไว้ มอบให้แก่ ขุนอินฯ มิได้ตั้งใจมอบให้แก่เจ้าฟ้าเหม็น ดังตำนาน คืออีกหนึ่งรอยร้าวฉานเจ็บแค้น

สุดท้าย เจ้าฟ้าเหม็น ต้องสิ้นใจ ภายใต้การโค้นล้มของ หลานชาย เจ้าพระยาจักรี (ร.3) หลังพระพุทธยอดฟ่าฯ สิ้นพระชมน์ 6 วัน

สรุป เรื่องวิปลาศ ไม่จริง ออกบวชเพราะถูกขอร้อง บังคับ ไม่จริง ถูกก่อกบฏ ยึดอำนาจ จริง

มีการก่อความไม่สงบ ยุยงปลุกปั่น จากอยุธยา มีหัวเมืองใหญ่ ยกเข้ามายึดเมืองหลวงโดยมิได้มีพระบรมราชานุญาต ข้ารายการภายใน ฝักใฝ่ในตัวสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเข้าร่วม การยกทัพไปเขมร แล้วย้อนกลับ มีการวางแผนล่วงหน้า

การตีโอบทัพหลวง โดยทัพเขมร และญวนมีการส่งสัญญาลับต่างตอบแทนจริง ข้าราชการผู้มีสายเลือดนักรบ และซื้อสัตย์ ถูกกำจัดสิ้น ที่เหลือจึงอย่างที่ ประชาชนชาวไทยได้แลเห็น ล้วนสายเลือดดีดีทั้งนั้น...

เมื่อกลับกรุงเทพมหานครแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ
ทรงรำลึกถึงผลงาน และความจงรักภักดีของพระยายมราช (แบน) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งเป็น "เจ้าพระยาอภัยภูเบศร วิเศษสงคราม รามนรินทรบดี อภัยพิริยบรากรมพาหุ" เป็นเจ้าพระยาคนแรกของสกุลอภัยวงศ์
ได้ปกครองบ้านเมืองเขมรให้ผาสุกสวัสดีมาได้ ๑๒ ปี

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงพระราชดำริว่าเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) มีความชอบใหญ่หลวง ครั้นจะเรียกตัวกลับก็ไม่ควร แต่ครั้นจะให้รับราชการอยู่เขมรต่อไป ก็น่ากลัวจะเกิดเรื่องวิวาทบาดหมางกับนังองค์เอง อยู่ไปก็อาจจะระแวงกัน

ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ จึงทรงขอกันเมืองพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ มงคลบุรี และระสือ รวม ๕ เมือง ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนไทย มาขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร และโปรดฯ ให้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) มีสิทธิปกครองโดยเด็ดขาดถึงขนาดเก็บภาษีได้เอง

ตระกูลอภัยวงศ์จึงได้ปกครองเขตแดนนั้นสืบมาหลายชั่วอายุคน จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ ในยุคของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) เป็นคนสุดท้าย ลูกหลานเหลนอภัยวงศ์หลายคนก็เกิดที่นั้น

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (แบน) เจ้าเมืองพระตะบองและดินแดนใกล้เคียง ได้ปกครองบ้านเมืองอยู่ ๑๖ ปี จึงถึงแก่อสัญกรรมเมื่อพุทธศักราช ๒๓๕๓ นำมาได้เท่านี้นี้ครับ สงสัยโดนแบนซะก่อน





[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top